ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • รถมอเตอร์ไซค์ใหม่
  • รถมอเตอร์ไซค์ใหม่
  • ค้นหาแบบละเอียด
  • ลองขี่ KTM 1290 พี่ใหญ่สายแอดเวนเจอร์รุ่นล่าสุด

    16 ส.ค. 60 4,773
    ลองขี่ KTM 1290 พี่ใหญ่สายแอดเวนเจอร์รุ่นล่าสุด
     
    บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์พรีเมียมสัญชาติออสเตรีย เคทีเอ็ม (KTM) ได้เปิดตัวรถสายแอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ มีรุ่น 1290 SUPER ADVENTURE R, 1290 SUPER ADVENTURE S, 1090 ADVENTURE R และ 1090 ADVENTURE เน้นการขี่ทางไกลทั้งถนนและทางฝุ่น โดยเฉพาะสไตล์เอนดูโร่ ตามยึดแนวคิด READY TO RACE ที่สามารถนำไปลงแข่งได้โดยไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆ และได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ทดลองขี่สั้นๆ หลังเปิดตัวทันที

    KTM 1290 SUPER ADVENTURE R (ราคา 1,299,900 บาท) และ  KTM 1290 SUPER ADVENTURE S   (ราคา 1,249,900 บาท) ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 1,301 ซีซี. 160 แรงม้า พร้อมระบบควบคุมการขับขี่ Traction Control ระบบเบรกแบบ C-ABS ระบบตรวจสอบลมยาง และ Cornering Light  ที่จะเพิ่มมุมการมองเห็นด้านข้างให้กว้างและความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางคืน และสามารถติดตั้ง Travel Pack เพิ่มได้ โดยมี Quickshifter, ระบบ MSR (Motor Slip Regulation), ระบบ HHC (Hill Hold Control) และ KTM MY RIDE ที่ไว้เชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน

    ความแตกต่างของทั้ง 2 โมเดล คือ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R จะเน้นลุยทางออฟโรดเต็มรูปแบบ ตัวรถประกอบไปด้วยล้อแบบซี่ลวด ยางแบบออฟโรด หน้าขนาด 21 นิ้ว หลังขนาด 18 นิ้ว ระบบช่วงล่างปรับได้ (Fully Adjustable) กันล้ม (Crash Bar) โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบ Cornering ABS ส่วน KTM 1290 SUPER ADVENTURE S ใช้ล้อแม็ก ยางหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหลังขนาด 17 นิ้ว ระบบช่วงล่างแบบเซมิแอคทีฟ แต่สามารถติดตั้ง Offroad Pack เพื่อเพิ่มความสามารถแบบออฟโรดได้

    หลังจากงานเปิดตัวผู้เขียนได้มีโอกาสทดลองขี่ในคอร์สจำลองแบบเอนดูโร่ โดยมีรถเตรียมไว้ให้ทั้งหมด 4 รุ่น ผู้เขียนได้ขี่รุ่น KTM 1290 SUPER ADVENTURE S ซึ่งเป็นรุ่นเน้นทางเรียบ ประเภทของยางไม่เหมาะกับใช้วิ่งทางออฟโรดเท่าไหร่ ขณะที่เพื่อนสื่อมวลชนท่านอื่นได้รุ่น R แล้วแต่รอบ อย่างไรก็ตามการขี่ในคอร์สที่ออกแบบไว้เพื่อเน้นการทรงตัวมากกว่าทำความเร็วและลุย ทำให้แทบไม่มีโอกาสลองอะไรกับตัวรถมากนัก เพราะต้องใช้เกียร์ 1 ตลอด ด้วยน้ำหนักรถ 217 กก. และผู้เขียนที่หนัก 81 กก. รวมเครื่องแต่งกายก็เกือบ 300 กก. การขี่บนทางดินและหญ้าด้วยความเร็วแบบ Walking Speed ดูจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ผู้เขียนยืนขี่เกือบตลอด พบว่าตัวรถควบคุมไม่ยาก ถังน้ำมันและโครงที่ออกแบบไม่กว้างมากนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งทำให้การยืนแล้วหนีบทำได้สะดวก เมื่อเจอพื้นดินและทรายที่ร่วนเพราะถูกเปิดหน้าไว้ ทำให้ต้องใช้พลังผสานกับระบบช่วยเหลือในการฝ่าออกไป แต่ด้วยยางที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้การผ่านเป็นไปด้วยความยากลำบากพอสมควร ในรอบหลังผู้เขียนพยายามเปิดไลน์ใหม่ที่เป็นทางดิน-หญ้าที่แน่นกว่า ก็ไปได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นการขี่แบบช่วงสั้นๆ แต่ใช้พลังและเวลามากพอสมควรเพราะคอร์สค่อนข้างยาก โดยเฉพาะกับรุ่น S ที่เน้นทางเรียบ คงต้องหาโอกาสทดสอบแบบถนนจริงในโอกาสต่อไป

    แท็กที่เกี่ยวข้อง :

    ข่าว-โปรโมชั่นล่าสุดอื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)