แบงก์ปลอม!! ดูจุดสังเกตง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน "Thai Banknotes" จากธนาคารแห่งประเทศไทย
หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกธนบัตรแบบใหม่ (แบบที่ 17) ขึ้นมาใช้เป็นแบบแรกในรัชกาลที่ 10 ยังได้มีการจัดทำแอปพลิเคชัน "Thai Banknotes" หรือ "ธนบัตรไทย" เพื่อเผยแพร่เรื่องจุดสังเกตต่างๆ บนธนบัตร โดยแอปพลิเคชันนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ธนบัตรไทยมีความรู้และเข้าใจวิธีสังเกตธนบัตรแบบใหม่ โดยแยกตามชนิดราคา และสามารถเรียนรู้วิธีสังเกตธนบัตร ด้วยวิธีการง่ายๆ นอกจากนั้นยังสามารถดูเทคโนโลยีพิเศษที่นำมาใช้กับธนบัตรรุ่นนี้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น หมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติเปลี่ยนสีได้ และยังมีฟังก์ชันพิเศษที่ทำให้โทรศัพท์มือถือสั่น เมื่อสัมผัสจุดสังเกตบนภาพธนบัตรผ่านแอปพลิเคชัน
และเพื่อช่วยกระตุ้นเตือนให้ประชาชนได้สังเกต และสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างแบงก์จริง และแบงก์ปลอมได้ด้วยตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ทุจริต และยับยั้งการแพร่กระจายของแบงก์ปลอม เรามารีวิวแอปพลิเคชันนี้ไปด้วยกันค่ะ
เช็คจุดสังเกตธนบัตรปลอมบน Application "Thai Banknotes"
เราสามารถเช็คจุดสังเกตการปลอมแปลงบนธนบัตรแบบใหม่ผ่าน Application "Thai Banknotes" ได้ 4 วิธี คือ การสัมผัส (Feel), การยกส่องด้วยแสงสว่าง (Look), การพลิกเอียง (Tilt), การส่องด้วยแบล็กไลท์ (Black Light) โดยมีรายละเอียดในแต่ละจุดสังเกต ดังนี้ค่ะ
โทษของความผิดที่เกี่ยวกับแบงก์ปลอม
ตามอัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ 2560 แบ่งตามความผิดที่กระทำ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ
มาตรา 240 หากผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา | ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 400,000 บาท |
มาตรา 241 ผู้ใดแปลงเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือแปลงพันธนบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ให้ผิดไปจากเดิม เพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีมูลค่าสูงกว่าจริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานแปลงเงินตรา | ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 400,000 บาท |
มาตรา 244 ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 | ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 300,000 บาท |
มาตรา 245 ผู้ใดได้มาซึ่งสิ่งใดๆ โดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ถ้าต่อมารู้ว่าเป็นของปลอมหรือของแปลงเช่นว่านั้น ยันขืนนำออกใช้ | ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |
มาตรา 246 ผู้ใดทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงเงินตราไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร หรือสิ่งใดๆ ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือสำหรับปลอมหรือแปลงพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ หรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่นว่านั้น เพื่อใช้ในการปลอมหรือแปลง | ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 300,000 บาท |
มาตรา 249 ผู้ใดทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดๆ ให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งใดๆ ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ หรือจำหน่ายบัตรหรือโลหะธาตุเช่นว่านั้น และ | ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |
ถ้าการจำหน่ายบัตรหรือโลหะธาตุดังกล่าวในวรรคแรก เป็นการจำหน่ายโดยการนำออกใช้ดังเช่นสิ่งใดๆ ที่กล่าวในวรรคแรก | ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ |
รางวัลนำจับธนบัตรปลอม
สำหรับประชาชนที่แจ้งเบาะแสแหล่งผลิตหรือแหล่งจำหน่ายธนบัตรปลอม จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ทางการได้ตั้งเงินสินบนให้กับผู้แจ้งความ และเงินรางวัลให้กับผู้จับกุมธนบัตรปลอมแปลง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลการจับกุมการปลอมแปลงธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ พุทธศักราช 2526 ไว้ดังนี้ค่ะ
เงินสินบน จ่ายให้แก่ผู้แจ้งความนำจับ ตามหลักเกณฑ์วิธีการ ดังนี้
กรณีที่ 1 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นอุปกรณ์ ให้จ่ายเงินสินบนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของราคาอุปกรณ์ตามที่กรมธนารักษ์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วแต่กรณีประเมินราคา แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีที่ 2 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นธนบัตรปลอม ให้จ่ายเงินสินบนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของราคาในหน้าธนบัตรปลอม หรือเหรียญกษาปณ์ปลอมที่จับได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เงินรางวัล จ่ายให้แก่ผู้จับกุม ตามหลักเกณฑ์วิธีการ ดังนี้
กรณีที่ 1 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นอุปกรณ์ ให้จ่ายเงินรางวัลในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของราคาอุปกรณ์ตามที่กรมธนารักษ์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วแต่กรณีประเมินราคา แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
กรณีที่ 2 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นธนบัตรปลอมให้จ่ายเงินรางวัลในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของราคาในหน้าธนบัตรปลอม หรือเหรียญกษาปณ์ปลอมที่จับได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
ในกรณีที่จับกุมได้โดยไม่มีผู้แจ้งความนำจับ ให้จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับกุมไม่เกินร้อยละ 30 แล้วแต่กรณี
การจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลจะจ่ายให้ทันทีครึ่งหนึ่ง เมื่ออัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหา และเมื่อศาลพิพากษาลงโทษว่ามีความผิด จะจ่ายให้อีกครึ่งหนึ่ง
การขอรับเงินสินบน เงินรางวัล ให้ผู้แจ้งความนำจับหรือผู้จับกุมยื่นคำขอต่อบุคคลต่อไปนี้ภายใน 90 วัน นับแต่วันสั่งฟ้องผู้ต้องหา หรือวันที่คดีถึงที่สุดแล้วแต่กรณี
- ในกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นต่ออธิบดีกรมธนารักษ์
- ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้รับคำขอ ส่งคำขอรับเงินสินบน หรือเงินรางวัล พร้อมด้วยหลักฐานไปยังอธิบดีกรมธนารักษ์ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอรับเงิน
สุดท้ายนี้ หากเราเกิดพลาดได้รับแบงก์ปลอมมา เราจะทำอย่างไรกับแบงก์ปลอมใบนั้นดี? ขอแนะนำให้ทำลาย อย่านำไปใช้ต่อนะคะ เพราะนอกจากจะมีโทษตามข้อมูลข้างต้นแล้ว ก็จะยิ่งทำให้แบงก์ปลอมแพร่กระจายไปทั่ว ส่งผลให้ผู้อื่นเดือนร้อนกันไปด้วย และหากเราทราบเบาะแสก็สามารถไปแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไปได้ค่ะ
-
ชนานาถ จินตกสิกรรม
MONEY GURU Thailand