รู้หรือไม่...ทำไมสีของธนบัตรจึงแตกต่างกัน?
ก่อนที่จะนำธนบัตรออกใช้ในพุทธศักราช 2445 นั้น บริษัทผู้รับจ้างพิมพ์ธนบัตรได้เสนอแนวความคิดการใช้สีเป็นตัวแบ่งชนิดราคา ทั้งยังใช้สีที่สดและเข้มกับธนบัตรชนิดราคาสูง ส่วนชนิดราคาที่ต่ำลงมาใช้สีที่อ่อนจางลง และใช้สีที่ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยสามารถจดจำได้ง่าย เช่น สีแดง สีเขียว สีม่วง สีน้ำตาล สีเหลือง และสีเทา ตามข้อความในหนังสือกราบบังคมทูลของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยันต์มงคล กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย เสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ตอนหนึ่งว่า
"...ตัวอย่างสีธนบัตรทั้ง 5 ชนิดนั้นเป็นสีที่ช่างพิมพ์แนะนำมา..." และ "...สีที่แนะนำมานั้นความคิดว่าถ้าธนบัตรราคายิ่งมาก สีก็ยิ่งเข้มขึ้นไป..."
ต่อมา ในปีพุทธศักราช 2489 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้สั่งพิมพ์ธนบัตรแบบ 9 จาก บริษัท Thomas De La Rue จำนวน 5 ชนิดราคา คือ
- 100 บาท (สีแดง)
- 20 บาท (สีเขียว)
- 10 บาท (สีน้ำตาล)
- 5 บาท (สีม่วง)
- 1 บาท (สีน้ำเงิน)
เริ่มนำออกใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 จนถึงปี พ.ศ. 2511 จึงเปลี่ยนเป็นธนบัตรแบบ 10 เฉพาะชนิดราคา 100 บาท และเนื่องจากธนบัตรแบบ 9 มีระยะเวลาการออกใช้ยาวนานกว่า 20 ปี ทำให้ประชาชนคุ้นเคยกับสีของธนบัตรแต่ละชนิดราคา จนยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ จึงอาจกล่าวได้ว่าสีของธนบัตรแบบ 9 นั้นเป็นต้นแบบของการกำหนดสีธนบัตรในปัจจุบัน
-
สินีนาฏ มากทองหลาง
MONEY GURU Thailand