กฎหมายการคุ้มครองผู้ใช้บริการ e - Payment ความจริงที่เราไม่ควรมองข้าม
แบงก์ชาติทำหน้าที่กำกับดูแลผู้ให้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีทั้งที่เป็นสถาบันการเงินและมิใช่สถาบันการเงิน โดยผู้ให้บริการต้องอยู่ภายใต้กฎหมายต่างๆ ได้แก่
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริการ e-Payment | สาระสำคัญ | ประเภทสถาบันที่ถูกควบคุมดูแล |
พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 | ควบคุมดูแลสถาบันการเงินเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่เงินฝากของประชาชน การกำกับดูแลในเรื่องต่างๆ และการกำหนดเกณฑ์ปฏิบัติในการให้บริการทางการเงิน เช่น สาขาธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน | - ธนาคารพาณิชย์
- บริษัทเงินทุน
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์
|
พ.ร.ฎ. ว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2551 | ควบคุมดูแลผู้ให้บริการ e-Payment ในธุรกิจบริการ 8 ประเภท (ได้แก่ เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เครือข่ายบัตรเครดิต เครือข่ายอีดีซี สวิตช์ชิ่งในการชำระเงิน หักบัญชี ชำระดุล รับชำระเงินแทน และการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด หรือผ่านทางเครือข่าย) เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ เสริมสร้างความเชื่อถือและยอมรับในระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ป้องกันความเสียหายต่อสาธารณชน รวมทั้งส่งเสริมการใช้บริการ e-Payment และคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน | - ธนาคารพาณิชย์ และผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank)
|
ประกาศกระทรวงการคลังซึ่งออกตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (บัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์) | ควบคุมดูแลผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ซื้อสินค้าบริการได้จากหลายร้านค้า (Multi-purpose e-Money) | - ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มิใช่สถาบันการเงิน (Non-bank)
|
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์แบงก์ชาติ
www.bot.or.th เลือกหัวข้อ "เกี่ยวกับ ธปท." และหัวข้อย่อย "กฎหมายที่เกี่ยวข้อง"