Samsung ทำกำไรเพิ่ม 26% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 จากความต้องการชิปหน่วยความจำ
Samsung Electronics ทำกำไรเพิ่มขึ้น 26% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 จากความต้องการชิปหน่วยความจำ สมกับเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ และสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยทำตัวเลขแตะ 9 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 8.2 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 (เดือนตุลาคมถึงธันวาคม) เพิ่มขึ้น 25.7% จากปีก่อนหน้านี้ ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.9% เป็น 61 ล้านล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกัน หรือประมาณ 5.5 แสนล้านดอลลาร์
ผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของ Samsung ลดลงเพียงเล็กน้อยจากความเปลี่ยนแปลงของตลาด ราคาชิป DRAM ที่อ่อนค่าลง และการแข็งค่าของค่าเงินวอนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์คาดว่าอุตสาหกรรมชิปหน่วยความจำจะเข้าสู่ Super-Cycle ในปีนี้เนื่องจากความต้องการชิปเซ็ตบนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มมากขึ้น และราคาชิป DRAM คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่ชิป NAND จะดีดตัวขึ้นจากไตรมาสที่ 3
CW Chung นักวิเคราะห์ของ Nomura กล่าวว่า แม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะรุนแรงขึ้นในไตรมาสที่ 4 แต่ความต้องการหน่วยความจำจากธุรกิจพีซีและสมาร์ทโฟนก็ดีกว่าที่คาดกันใว้ เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความต้องการด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น และยังมีความต้องการ DRAM ก่อนการขึ้นราคาในไตรมาสแรก
หุ้นของ Samsung เพิ่มขึ้น 1.45% ในการซื้อขายช่วงเช้าหลังจากเพิ่มมากขึ้นถึง 40% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ Samsung สูงถึง 500 ล้านล้านวอน เนื่องจากนักลงทุนเดิมพันกับโอกาสในระยะยาวของบริษัท นอกจากนี้ซัมซุงยังเตรียมที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S Series รุ่นล่าสุดในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ CES ในสัปดาห์หน้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกับ Apple และ Huawei หลังจากที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง iPhone 12 Series ได้รับการตอบรับอย่างดีตั้งแต่เปิดตัวในเดือนตุลาคม
โดยล่าสุด Samsung ครองตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกด้วยส่วนแบ่ง 22% ในไตรมาสที่ 3 ตามมาด้วย Huawei ที่ 14% และ Xiaomi ที่ 13% ส่วน Apple มาเป็นอันดับ 4 ด้วยส่วนแบ่ง 11% ตามการวิจัยของ Counterpoint
ที่มา nikkei