ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • โทรศัพท์มือถือ
  • โทรศัพท์มือถือ
  • ค้นหาแบบละเอียด
  • Stanford Thailand Research Consortium เชิญบุคลากรการศึกษาเข้าร่วมโครงการ Innovative Teaching Scholars แก้ปัญหา "ช่องว่างทักษะ" ในตลาดแรงงาน

    10 ส.ค. 64 171

    Stanford Thailand Research Consortium เชิญบุคลากรการศึกษาเข้าร่วมโครงการ Innovative Teaching Scholars แก้ปัญหา "ช่องว่างทักษะ" ในตลาดแรงงาน

    The Stanford Thailand Research Consortium เชิญบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการวิจัย Innovative Teaching Scholars (ITS) รุ่นต่อไป ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนงานวิจัยของคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยได้ร่วมมือกับศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน (Southeast Asia Center หรือ SEAC) ซึ่งมุ่งเน้นศึกษาวิจัยการพัฒนาที่สำคัญต่ออนาคตของประเทศไทย
    การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลของประเทศไทยถูกเร่งให้เร็วขึ้นจากการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้เกิดรูปแบบใหม่ของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การทำธุรกิจ การศึกษา และในด้านอื่น ๆ อีกมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในบรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาและผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาซึ่งกำลังเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ต้องใช้ทักษะใหม่ๆ ดังที่ ดร. บริทอส คาแวคแนโร ศาสตราจารย์พิเศษ จากสถาบันการออกแบบ แฮซโซ่ แพลทเนอร์ (Hasso Plattner) ผู้นำร่วมในโครงการ ITS ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า มหาวิทยาลัยทั่วโลกต่างกำลังเผชิญกับปัญหาด้านความไม่สอดคล้องระหว่างการเตรียมความพร้อมของนักศึกษากับทักษะและวิธีคิด (Mindset) ที่จำเป็นต่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพในอนาคต ความพิเศษของโครงการ ITS คือการมุ่งสร้างความร่วมมือระหว่างบุคลากรทางการศึกษาไทยที่สนใจปรับมุมมองสู่การศึกษายุคใหม่ และผู้นำเชิงนวัตกรรมจากภาคองค์กรระดับประเทศ ซึ่งกำลังมองหาคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสร้างความก้าวหน้าในองค์กรไทยในอนาคต
    ปัจจุบัน โครงการวิจัยของ ITS กำลังติดอาวุธให้แก่คณาจารย์มหาวิทยาลัยไทยจำนวน 50 ท่าน ด้วยการทดลองการนำแนวทางการสอนแบบใหม่ ในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาเพื่อมุ่งสร้างความสำเร็จในการประกอบอาชีพ ตลอดจนช่วยส่งเสริมอาจารย์เหล่านั้นให้เป็นผู้นำที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมงานและสถาบันของพวกเขาได้ทำในสิ่งเดียวกัน
    เมื่อเร็ว ๆ นี้ the Stanford Thailand Research Consortium ได้จัดงานสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ "Future Thailand - Innovation in Education and Workforce Development" เพื่อถ่ายทอดผลการศึกษาเบื้องต้นจากโครงการวิจัย ITS พร้อมแบ่งปันมุมมองของภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นของนักศึกษา จากตัวแทนขององค์กรชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) บริษัท เอพี  (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย
    ตัวอย่างแนวทางการสอนรูปแบบใหม่ของโครงการวิจัย ITS
    • เปิดโอกาสให้นักศึกษามีอิสระในการตัดสินใจมากขึ้นในห้องเรียน ซึ่งเพิ่มการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนได้อย่างมีนัยยะสำคัญ  
    • ทำงานร่วมกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่การทำงาน รวมถึงตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยระบุทักษะเฉพาะที่จำเป็นต่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพในอนาคต และนำมาปรับใช้ในหลักสูตรการสอน
    มุมมองของภาคธุรกิจต่อปัญหา "ช่องว่างทักษะ"
    • ความร่วมมือในการทำงานระหว่างภาครัฐ องค์กรภาคการศึกษา ตลอดจนภาคเอกชน คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปิดช่องว่างทางทักษะอย่างเป็นรูปธรรม
    • ผู้สอนจำเป็นต้องพัฒนารูปแบบการสอนและเรียนรู้การใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับนักเรียนที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง
    • ไม่เพียงแต่ความรู้ด้านทฤษฏี นักเรียนจำเป็นต้องมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น รวมถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
    หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Innovative Teaching Scholars และรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการสมัครเข้าร่วมโครงการในรุ่นถัดไป โปรดกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มนี้: https://forms.gle/76FL1b9rrmscqKJz6
    นอกจากโครงการ Innovative Teaching Scholars แล้ว ภายใต้ความร่วมมือของ the Stanford Thailand Research Consortium ยังมีโครงการวิจัยด้านต่าง ๆ รวมถึงโครงการวิจัยด้านการศึกษาของสแตนฟอร์ด มากกว่า 12 โครงการ ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญในหลากหลายหัวข้อ อาทิเช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent - AI) มาช่วยสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุให้ดีขึ้น โครงการลดการตัดไม้ทำลายป่าพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยในเขตจังหวัดน่านของประเทศไทย รวมทั้งการสร้างข้อมูลเชิงลึกขององค์กรโดยใช้ประโยชน์จากชุดข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) และการสร้างความเข้าใจนวัตกรรมผ่านการพัฒนาความรู้บุคลากร
    The Stanford Thailand Research Consortium ตั้งอยู่ที่ Stanford’s Office of Vice Provost and Dean of Research ซึ่งบริหารโดย ศูนย์พัฒนาวิชาชีพแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford Center for Professional Development) โดยได้ร่วมมือกับ ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน (Southeast Asia Center: SEAC) ในประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนเงินทุน จาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย

    บทความล่าสุดอื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)