ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • โทรศัพท์มือถือ
  • โทรศัพท์มือถือ
  • ค้นหาแบบละเอียด
  • Sony ประเทศไทย เปิดตัว BRAVIA 8K LED TV เป็นครั้งแรก พร้อมหูฟังไฮเรสออดิโอไร้สาย WH-1000XM4 อัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยี

    7 ส.ค. 63 1,090
    Sony ประเทศไทย เปิดตัว BRAVIA 8K LED TV เป็นครั้งแรก พร้อมหูฟังไฮเรสออดิโอไร้สาย WH-1000XM4 อัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยี
    บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าสร้างปรากฎการณ์บันเทิงสุดพิเศษในการรับชมทีวีครั้งใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีคุณภาพสุดล้ำ ด้วยการเปิดตัว BRAVIA 8K LED TV ขนาด 85 นิ้ว ในรุ่น Z8H (BRAVIA Z8H) ออกมาเขย่าตลาดทีวีครึ่งปีหลัง โดยมาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัยสุดบางเฉียบ ทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นล่าสุดเพื่อเพิ่มคุณภาพความคมชัดของภาพและเสียงอย่างสมบูรณ์แบบ
    พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัว BRAVIA 4K LED TV รุ่น X9500H (BRAVIA X9500H) ที่มาพร้อมคุณภาพระดับ 4K พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นบันเทิงครบครัน และทีวี บราเวีย Ready for PlayStation 5 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบการเล่นเกมให้สามารถใช้งานร่วมกับทีวีได้อย่างสนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการรับชมภาพยนตร์ เล่นเกม และความบันเทิงในบ้านอย่างเต็มอรรถรสยิ่งกว่าเดิม ทั้งนี้ โซนี่จะเปิดให้ผู้สนใจด้สั่งจองทีวีบราเวีย 8K เครื่องแรก ตั้งแต่วันที่ 8 ถึง 18 สิงหาคม ศกนี้ พร้อมรับของสมนาคุณพิเศษสุดคุ้ม
    BRAVIA 8K LED TV ขนาด 85 นิ้ว ในรุ่น Z8H (BRAVIA Z8H) สุดยอด BRAVIA LED TV ระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดจากโซนี่ ที่จะทำให้ผู้ใช้ได้รับอรรถรสความบันเทิงในการรับชมทีวีสุดพิเศษทั้งภาพและเสียงอย่างน่าประทับใจ ด้วยความละเอียดของภาพระดับ 8K และมีขนาดใหญ่ถึง 85 นิ้ว พร้อมกับชิปประมวลผลภาพตัวใหม่ล่าสุด Picture Processor X1 Ultimate ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลภาพที่สวยงามสมจริง คอนทราสต์ และคมชัดยิ่งกว่าเดิม รวมถึงเทคโนโลยี Full Array LED ที่จะช่วยเพิ่มระดับความสว่างบนหน้าจอทีวีมากขึ้น พร้อมกับควบคุมระดับความดำของภาพให้เข้มกว่าการรับชมจากทีวี LED ทั่วไปอีกด้วย ผสานกับเทคโนโลยีทรงพลังอย่าง TRILUMINOS Display ซึ่งจะทำให้ผู้ชมตื่นตะลึงไปกับการไล่เฉดสีของวิดีโอให้มองเห็นสีต่างๆ ได้อย่างละเอียดคมชัดมากขึ้น ทั้งยังสามารถรับชมภาพได้อย่างเพลิดเพลินแม้จะในสภาพแวดล้อมที่มึดด้วย Backlit Remote
    BRAVIA Z8H ยังมาพร้อมการออกแบบอันโดดเด่นด้วยดีไซน์กรอบบางเฉียบในแบบมินิมัล และ Immersive Edge ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดวางทีวีขนาดใหญ่ในบ้านได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัดพร้อมด้วยขาตั้งทีวีแยกส่วนสองตำแหน่งที่ออกแบบมาให้ติดตั้งแบบกว้างและแคบได้ตามต้องการ  นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Ambient Optimization ซึ่งจะช่วยปรับแต่งคุณภาพของภาพและเสียงให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมของห้องผู้ใช้งานผ่านการตรวจจับจากตำแหน่งการดูทีวีของผู้ใช้งาน รวมถึงมี Frame Tweeter ที่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพให้มีพลังเสียงที่ดียิ่งกว่าเดิม และ Sound-from-Picture Reality ที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งจะช่วยให้ลำโพงปรับตำแหน่งเสียงให้ตรงกับภาพบนจอทีวีเพื่อให้พลังเสียงออกมาสมจริงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ขณะเดียวกัน ยังมี Hands-Free Capabilities รวมถึงขุมพลังจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในเวอร์ชั่น 9 Pie ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดมากมายผ่าน Google Home ทั้งยังรองรับการใช้งาน AirPlay 2 และ HomeKit จาก Apple แถมยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน รวมถึงรองรับการถ่ายทอดสัญญาณภาพ Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos พร้อมทั้งมีช่องต่อแบบ HDMI 2.1 และสามารถแสดงผลในระดับ 4K ที่ 120fps
    โซนี่ไทยพร้อมเปิดให้ผู้สนใจได้สั่งจองทีวี BRAVIA 8K LED TV ขนาด 85 นิ้ว ในรุ่น Z8H (BRAVIA Z8H) ขนาด 85 นิ้ว ตั้งแต่วันที่ 8 ถึง 18 สิงหาคม ศกนี้ ในราคาจำหน่าย 329,990 บาท พร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนระดับพรีเมียมรุ่นล่าสุด WH-1000XM4 มูลค่า 13,990 บาท และซาวด์บาร์รุ่นใหม่ HT-G700 มูลค่า 19,990 บาท รวมมูลค่าของสมนาคุณ 33,980 บาท พร้อมขยายระยะเวลารับประกันทีวีเพิ่มเป็น 3 ปี ก่อนวางจำหน่ายจริงหลังวันที่ 18 ส.ค. ศกนี้
    BRAVIA 4K LED TV รุ่น X9500H (BRAVIA X9500H) ทีวีระดับพรีเมี่ยมที่จะนำเสนอภาพและเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ 4K LED TV โดยมาพร้อมหน่วยประมวลผลภาพ Picture Processor X1 Ultimate ที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพที่รับชมยิ่งขึ้น ทั้งยังมีเทคโนโลยี Full Array LED ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับความสว่างบนหน้าจอทีวีได้มากขึ้น พร้อมควบคุมระดับความดำของภาพได้ลึกกว่าการรับชมจากทีวี LED ทั่วไปอีกด้วย รวมถึง X-Wide Angle ที่จะทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับคอนทราสต์ของภาพโดดเด่นและสีสันสดใสในทุกมุมมองไม่ว่าผู้ใช้งานจะอยู่ในตำแหน่งใด
    นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Flush Surface โดยการซ่อนกรอบภาพจนทำให้ทีวีดูบางเฉียบมากขึ้น และยังมาพร้อมกับระบบเสียง Acoustic Multi-Audio ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมระบบ bi-amp system และลำโพง X-Balanced Speaker ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคมชัดของเสียง ขณะเดียวกัน ยังมี Ambien Optimization ที่สามารถปรับแต่งภาพและเสียงให้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมต่างๆ ของห้องได้เอง
    รวมไปถึงเทคโนโลยีแสดงผล TRILUMINOS ที่จะสร้างความแตกต่างของการแสดงผลในเฉดสีที่หลากหลายเพื่อให้ภาพสวยเป็นธรรมชาติสมจริงกว่าจอทีวีทั่วไป และ Hands-free Capabilities ซึ่งทำงานร่วมกับ Google Assistant ในตัวทีวี ทำให้สามารถค้นหาหรือสตรีมภาพยนตร์ เพลง และรูปภาพสุดโปรดมาแสดงบนจอทีวีได้ง่ายดายด้วยคำสั่งเสียงของผู้ใช้งาน พร้อมขุมพลังจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในเวอร์ชั่น 9 Pie ซึ่งมีแอพพลิเคชั่นให้ดาวน์โหลดมากมายผ่าน Google Home ทั้งยังรองรับการใช้งาน AirPlay 2 และ Home Kit จาก Apple รวมถึงรองรับสัญญาณภาพ Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos โดยจะวางจำหน่ายด้วยกัน 2 ขนาดคือ ขนาด 65 นิ้ว และขนาด 55 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายในเดือนกันยายน เป็นต้นไป
    Google Assistant เพิ่มความสะดวกในการสั่งงานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานทีวีด้วยคำสั่งเสียง, ค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากอินเตอร์เน็ตให้แสดงผลบนทีวี รวมถึงควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ Smart Device ที่เชื่อมต่อในเครือข่ายเดียวกับทีวีได้ด้วย ให้ทีวีเป็นศูนย์กลางความบันเทิงภายในบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบันนี้ ทีวี บราเวียสามารถรองรับการใช้งาน Google Assistance ได้หลากหลายรุ่นด้วยกัน รวมถึงทีวีบราเวียรุ่นล่าสุดอย่าง Z8H และ X9500 Series ด้วยเช่นกัน
    Ready for PlayStation 5 โซนี่ยังได้เตรียมความพร้อมเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ และความสะดวกสบายให้กับคอเกมทั้งหลายในการเล่นเกมจากเครื่องเล่นเพลย์สเตชั่น 5 โดยจับมือกับ โซนี่ อินเตอร์แอ็คทีฟ เอนเตอร์เทนเมนต์ พัฒนาทีวีบราเวียรุ่นใหม่ให้รองรับ และสามารถเล่นเกมจากเครื่อง เพลย์สเตชั่น 5 ที่มีความละเอียดสูงได้อย่างลื่นไหล สำหรับทีวีบราเวียรุ่นใหม่ ที่มี Ready for PlayStation 5 ในปัจจุบันคือ ทีวีบราเวีย 8K รุ่น Z8H และ ทีวีบราเวีย 4K ซีรี่ส์ X9000 (วางจำหน่ายในไทยเดือนกันยายน ศกนี้)  นอกจากนี้ Ready for PlayStation 5 ยังเสริมกับ BRAVIA Game Mode ช่วยให้ผู้ใช้เล่นเกมจากเครื่อง PS5 ได้อัตโนมัติได้อย่างลื่นไหล และด้วย BRAVIA Game Mode ยังช่วยให้ผู้ใช่สามารถใช้งานคอนโทรลเลอร์ไร้สาย DualSense ในการเปิดใช้งานทีวี และ PS5 พร้อมกัน หรือยังสามารถใช้รีโมทคอนโทรลของทีวีในการสั่งงาน PS5 ได้ด้วยเช่นกัน
    บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าสร้างมาตรฐาน และประสบการณ์ใหม่ของการฟังเพลง พร้อมตอกย้ำภาพความเป็นผู้นำนวัตกรรมความบันเทิงคุณภาพสูง ด้วยการเปิดตัว WH-1000XM4 หูฟังไฮเรสออดิโอไร้สายแบบครอบหูเจนเนอเรชั่นที่ 4 ในตระกูล 1000X Series ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดความสำเร็จ มาจากหูฟังรุ่น WH-1000XM3 โดยมีการยกระดับความสามารถในการตัดเสียงรบกวนให้ดียิ่งขึ้น ในครั้งนี้โซนี่มีการเพิ่มเติมในส่วนของฟังก์ชั่นใหม่ๆเข้ามาช่วยในการปรับแต่งและควบคุมเพลงให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน   ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation และระบบปิด-เปิดรับเสียง รอบข้างอย่าง Ambient Sound อีกทั้งยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี AI สุดล้ำ เสริมฟังก์ชั่นการทำงานอันชาญฉลาด เพื่อมอบประสบการณ์ฟังเพลงด้วยรายละเอียดเสียงที่เหนือกว่า เพียบพร้อมด้วยคุณภาพตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การฟังเพลงคุณภาพสูงอย่างทั่วถึง WH-1000XM4 พร้อมวางจำหน่ายกลางเดือนสิงหาคม ศกนี้ ในราคา 13,990 บาท
    ความเงียบที่เหนือกว่า และน้ำเสียงที่ยอดเยี่ยม ด้วยคุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยมและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดที่อยู่ในหูฟังรุ่นใหม่ WH-1000XM4 จะช่วยในการลดเสียงความถี่สูงและกลางลง ประกอบกับไมโครโฟน 2 ตัวที่อยู่บนหูฟังแต่ละข้าง จะทำหน้าที่ตัดเสียงรบกวนผสานกับจุดเด่นของเทคโนโลยี Dual Noise Sensor ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกรองเสียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่าเดิม และส่งผ่านไปยังระบบตัดเสียงรบกวนแบบ HD Noise Cancelling Processor QN1 โดยทำงานร่วมกับชิปแบบใหม่ ที่จะเริ่มวิเคราะห์ตั้งแต่การเชื่อมต่อด้วย BLUETOOTH Audio SoC (System on Chip)  ที่จะตรวจจับและแยกปรับอัตราส่วนสัญญาณเสียงเพลง และสัญญาณรบกวน ตลอดจนสภาพอคูสติกในระหว่างทางเดินเสียงจากตัวขับไดรเวอร์จนถึงหูของเรา ซึ่งทำงานละเอียดมากกว่า 700 ครั้งต่อวินาที ด้วย  อัลกอริธึ่มแบบใหม่ที่มีอยู่ใน HD Noise Cancelling Processor QN1 โดยทำการจัดลำดับการประมวลผลใหม่แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ตัดเสียงรบกวนตามสภาพอะคูสติกภายในพื้นที่หรือสถานที่ต่างๆตามจริงเพื่อการทำงานของระบบตัดเสียงรบกวนได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงโปรด และหลีกหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
    WH-1000XM4 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีเสียง DSEE Extreme ที่ได้รับการต่อยอด และพัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้านี้ เป็นการชดเชยรายละเอียดเสียงที่อาจสูญหายไปเมื่อไฟล์เพลงดิจิตอลถูกบีบอัด โดยใช้ EDGE-AI  ที่พัฒนาร่วมกับทางโซนี่มิวสิค เข้ามาเป็นเครื่องมือในการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ทำให้คุณภาพเสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด ในขณะเดียวกันยังเปิดประสบการณ์ฟังเพลงที่สมจริงกว่าด้วยระบบเสียง 360 Reality Audio ให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง เสมือนมีศิลปินคนโปรดมายืนร้องเพลงอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว โดยสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone และ Android ผ่านทางแอพพลิเคชั่น Sony Headphones Connect  ทั้งนี้เพื่ออรรถรสในการฟังเพลง ที่สมบูรณ์แบบสำหรับแต่ละบุคคล
    มอบประสบการณ์การฟังเพลงอันชาญฉลาดไม่เหมือนใคร ด้วยฟังก์ชั่นอัจฉริยะ Adaptive Sound Control โดยเพิ่มในส่วน Location Recognition นอกเหนือจากกิจกรรมที่ทำหูฟัง WH-1000XM4 จะสามารถเรียนรู้ได้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่จากนั้นระบบจะจดจำตำแหน่ง และปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะกับสถานการณ์นั้น ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปความพิเศษของ Adaptive Sound Control  จะเรียนรู้ และแนะนำการตั้งค่าเสียงเพลงโดยอัตโนมัติ โดยตรวจจับความเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน พิกัด สภาพเสียงที่แวดล้อม และกิจวัตรประจำวัน หรือผู้ใช้สามารถเลือกปรับเองผ่านแอพพลิชั่น Sony Headphones Connect ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก และง่ายดาย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงตลอดวัน และสามารถสนทนาโต้ตอบได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกอีกด้วย
    ตอบโจทย์การใช้ได้สะดวกสบายในทุกวัน WH-1000XM4 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ล่าสุด Speak-to-Chat ที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดการสื่อสารกับคนรอบข้าง เมื่อเริ่มการสนทนาในขณะที่กำลังฟังเพลง หูฟังจะหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติทันที พร้อมเปิดไมค์รับเสียงจากภายนอกเข้ามาให้คุณได้ยินเสียง จึงสามารถพูดคุยกับคู่สนทนาได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟัง หรือกดปุ่มควบคุมแต่อย่างใด และหูฟังจะกลับมาทำงานอีกครั้งภายใน 30 วินาที หลังจากจบบทสนทนา เป็นฟังก์ชั่นที่เพิ่มเติมขึ้นมาจาก Quick Attention ของรุ่นเดิมที่ ผู้ใช้งานสามารถรับฟังเสียงจากภายนอกได้ในระหว่างการใช้งานหูฟัง เพียงวางมือแตะที่ตัวหูฟัง เสียงเพลงภายในจะถูกลดระดับความดังลง และเปิดรับเสียงรอบข้างในทันที ซึ่งทำให้ได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกผ่านเข้าไปในหูที่ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับคนรอบข้าง และเพิ่มความปลอดภัยในขณะเดินทาง
    WH-1000XM4 ยังให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ฟังเพลงได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน ด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ Wearing Detection จำนวน 2 จุดที่ฝังอยู่บนตัวหูฟังจะตรวจจับการสวมใส่ เมื่อคุณถอดหูฟังออก เพลงจะหยุดเล่นอัตโนมัติ และเมื่อคุณใส่หูฟังกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง เพลงจะเล่นต่อเนื่องเองโดยอัตโนมัติเช่นกัน โดยวิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดแบตเตอรี่เป็นอย่างดีอีกด้วย เท่านั้นยังไม่พอ WH-1000XM4 มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Precise Voice Pickup  ซึ่งเป็นการควบคุมไมโครโฟนทั้งห้าตัวในหูฟังให้เข้ากับการประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง เพื่อมอบคุณภาพเสียงที่ชัดเจน คมชัด และแม่นยำให้กับสายสนทนาได้เป็นอย่างดี โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี และการใช้งานในฟังก์ชั่น Speak-to-Chat
    การออกแบบได้อย่างลงตัวเหนือระดับ WH-1000XM4 ยังเป็นหูฟังที่ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่สบายหูและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยๆ ด้วยตัวเอียร์แพดขนาดใหญ่ที่ผลิตด้วยวัสดุที่มีความหนานุ่มแน่น กระชับสบายหู จะช่วยลดแรงกด รวมถึงช่วยกระจายน้ำหนัก เพื่อเพิ่มผิวสัมผัสกับตัวเอียร์แพดของหูฟัง ทำให้สวมใส่ได้พอดี อีกทั้งส่วนคาดศีรษะมีความโค้งกระชับ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับ Bluetooth ได้ถึง 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน  และเมื่อมีสายเข้าหูฟังของคุณจะรู้ได้ทันทีว่าอุปกรณ์ใดที่กำลังมีสายเรียกเข้าและจะทำการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นั้นๆได้ในทันที ทั้งนี้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานและสามารถสลับการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ที่ต้องการได้ง่ายเพียงปุ่มสัมผัส
    รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0, LDAC และ Near Field Communication (NFC)  เพื่อให้เชื่อมต่อกับหูฟังได้โดยตรง ขณะเดียวกันยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วยไดร์เวอร์ขนาด 40 ม.ม. ที่ให้เสียงที่มีความคมชัดสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าหูฟังจะสามารถครอบคลุมทุกย่านเสียง รวมถึงรองรับจังหวะบีทของดนตรีได้หนักหน่วงและถ่ายทอดเสียงได้ทุกย่านความถี่เต็มช่วงได้สูงถึง 40 kHz  พร้อมขุมพลังแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงอีกทั้งยังมีระบบ Quick Charge ที่สามารถฟังเพลงแบบต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเพียง 10 นาที ทั้งนี้ยังรองรับ Fast Pair ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google ที่จะช่วยให้คุณค้นหาตำแหน่งล่าสุดของตัวหูฟังโดยกำหนดเป็นเสียงเรียกเข้าได้อีกด้วย WH-1000XM4 ยังรองรับการใช้งานผ่าน Google Assistance, Amazon Alexa และ Siri เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาและเลือกฟังเพลงโปรดได้อย่างรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น
    WH-1000XM4 มีให้เลือกใช้งาน 2 สี คือสีดำ และสีเงิน พร้อมวางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม ศกนี้ เป็นต้นไป
    สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร 02-715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th และทดลองประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ได้โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์  และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร
    • ธีระ อังรัตนันท์
    • ธีระ อังรัตนันท์
      MOBILE GURU Thailand

    บทความล่าสุดอื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)