BMW เปิดตัว BMW ซีรีส์ 7 โฉมใหม่ 2 รุ่นพร้อมเทคโนโลยี iPerformance และ M Performance
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวทัพรถยนต์รุ่นใหม่ นำโดย BMW 740Le xDrive Pure Excellence ที่มาพร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence เตรียมให้ได้สัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่ในแบบฉบับของ BMW ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 38 (Motor Show 2017)
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ใหม่นี้ ถือเป็นอีกขั้นของนวัตกรรมด้านยนตรกรรมจากบีเอ็มดับเบิลยู ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับสมรรถนะและความปราดเปรียวในการขับขี่ ด้วยการนำเทคโนโลยีจากบีเอ็มดับเบิลยู ตระกูล i มาสู่รุ่นแฟลกชิปของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสาน BMW eDrive เข้ากับขุมพลัง BMW TwinPower Turbo หรือโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาแบบ Carbon Core เพื่อคงความเป็นรถซีดานที่หรูหราและทรงประสิทธิภาพที่สุด
BMW 740Le xDrive Pure Excellence พร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอิน ไฮบริด ราคาจำหน่าย 6,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
โดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี BMW eDrive ในบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล i นำมาสู่บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence พร้อมโครงสร้าง Carbon Core และแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงดันสูง ผสานด้วยเทคโนโลยีเฉพาะ BMW TwinPower Turbo ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังสามารถนำเทคโนโลยี Efficient Dynamics มารวมเข้ากับยนตรกรรมได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด
ที่สุดของสองโลก: เทคโนโลยี BMW eDrive และ BMW TwinPower
บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ให้กำลังสูงสุดที่ 258 แรงม้า ด้วยเทคโนโลยี BMW TwinPower นับเป็นขุมพลัง 4 สูบที่ทรงพลังที่สุด ระบบการขับขี่ไฟฟ้ามอบกำลังเพิ่มเติมสูงสุดอีก 113 แรงม้า โดยเมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 326 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
ยิ่งไปกว่านั้น มอเตอร์ไฟฟ้ายังรับหน้าที่ส่งพลังด้วยการสำรองพลังงานขณะแตะเบรก หรือด้วยการเพิ่มค่าภาระเครื่องยนต์ตามระบบไฮบริดที่เลือกใช้ จากนั้นจึงดึงพลังเข้าสู่แบตเตอรี่แรงดันสูง และเมื่อขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence จะสามารถสร้างระยะทางสูงสุดได้ถึง 41 กิโลเมตร (ระยะทางสูงสุดอาจแตกต่างไปตามประเภทยางรถยนต์) มอเตอร์ไฟฟ้าถูกนำมารวมเข้ากับระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวรสำหรับการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า
BMW 740Le xDrive Pure Excellence เดินตามรอย BMW X5 xDrive40e ในฐานะรถยนต์รุ่นที่สองที่จ่ายพลังงานด้วยการขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้า การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ หรือเมื่อขับขี่ทั้งสองระบบในเวลาเดียวกัน
อัตราเร่งจาก 0-100 กม. ภายใน 5.3 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 45.5 กม./ลิตร อัตราการปล่อย CO2 ที่ 49 กรัม/กม. ในขณะที่อัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของ BMW 740Le xDrive Pure Excellence อยู่ระหว่าง 13.9 ถึง 13.2 กิโลวัตต์ ต่อ 100 กิโลเมตร (ตัวเลขคำนวนจาก EU test cycle สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด อาจแตกต่างไปตามประเภทยางรถยนต์)
ปุ่ม eDrive และสวิตช์ปรับโหมดขับขี่
ผู้ขับขี่สามารถกดปุ่ม eDrive บริเวณกลางคอนโซลเพื่อเปลี่ยนไปสู่การขับขี่ปลั๊กอินไฮบริดได้อย่างง่ายดาย และในการใช้งาน Auto eDRIVE hybrid ซึ่งเป็นระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานด้วยกันได้อย่างสูงสุดเต็มกำลัง
ผู้ขับขี่ยังสามารถปรับไปใช้โหมดไฟฟ้าล้วน Max eDRIVE ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว โดยโหมดนี้จะเปลี่ยนไป ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังดึงขุมพลังจากเครื่องยนต์มาใช้ได้ตลอดเวลาหากเหยียบคันเร่งจนสุด ด้วยโหมด Max eDRIVE สามารถให้ความเร็วสูงสุดจากพลังงานไฟฟ้าที่ 140 กม./ชม.
บีเอ็มดับเบิลยู 740Le xDrive Pure Excellence ยังมาพร้อมกับสวิตช์ปรับโหมดขับขี่ที่ออกแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งติดตั้งอยู่บนคอนโซล สวิทช์ปรับโหมดขับขี่ยังเสนออีกหนึ่งทางเลือกด้วย ADAPTIVE mode
ประสิทธิภาพชั้นเลิศที่มาพร้อมกับสุนทรียะในการขับขี่ ความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางระยะไกล และความหรูหราเฉพาะตัว
มาตรฐานอันเหนือชั้นของ BMW 740Le xDrive Pure Excellence ยังรวมไปถึงไฟหน้า Adaptive LED กุญแจ BMW Display Key ระบบนำทางแบบ Professional และระบบปฏิบัติการ iDrive ที่รวมถึงฟังก์ชันทัชสกรีนบนหน้าจอ และ BMW Gesture Control การสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวของมือโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ บริเวณห้องโดยสารด้านหน้าและด้านหลังมาพร้อมกับเบาะนั่งที่สะดวกสบาย ด้วยระบบระบายอากาศในเบาะและฟังก์ชันนวดเพื่อสุขภาพ และฟังก์ชั่นในการปรับเบาะให้อุ่นได้ BMW 740Le xDrive Pure Excellence ยังเติมเต็มที่สุดแห่งความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วยเบาะที่นั่ง Executive Lounge Seating และหลังคากระจกแบบ Sky Lounge Panorama
BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence ราคาจำหน่าย 12,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence ได้กลายเป็นรุ่นแฟลกชิปอีกหนึ่งรุ่นของตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ด้วยความประณีตหรูหราเหนือระดับ พร้อมขุมพลังในทุกช่วงเวลาการขับขี่จากเครื่องยนต์ 12 สูบ ผสานพลังเทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo
เปี่ยมด้วยขุมพลังแห่งการขับขี่
BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence เปิดตัวขุมพลังใหม่ล่าสุด M Performance TwinPower Turbo พร้อมเครื่องยนต์ 12 สูบ เครื่องยนต์ V12 ภายใต้ตราประทับ "M Performance" มีปริมาตรกระบอกสูบขนาด 6.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 610 แรงม้า ที่ 5,500 ถึง 6,500 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ที่ 1,550 ถึง 5,000 รอบ/นาที (อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงรวมอยู่ที่ 8.2 กม./ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 รวมที่ 291 กรัม/กม.)
เทคโนโลยี M Performance TwinPower Turbo อันเหนือชั้น ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.7 วินาที จำกัดความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. ถ่ายโอนพลังงานผ่านระบบเกียร์ 8 สปีด Steptronic Sport ซึ่งปรับแต่งตามคุณลักษณะของเครื่องยนต์ V12 โดยเฉพาะ
พิชิตทุกคู่แข่งในเซกเมนต์ในด้านความปราดเปรียวและความสะดวกสบายในการขับขี่
ระบบกันสะเทือนนวัตกรรม Executive Drive Pro คือความปราดเปรียวอันเฉียบคม และความสะดวกสบายในการขับขี่ ระบบการรักษาเสถียรภาพรถแบบ Active roll ช่วยลดการสะเทือนของตัวรถให้น้อยที่สุด
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ BMW xDrive ที่ถูกออกแบบเพื่อเน้นการขับขี่ที่ล้อหลัง ช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ขณะเข้าโค้งได้อย่างสมดุล คล่องแคล่ว และระบบความปลอดภัยยังเป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมจากระบบเลี้ยวทั้งสี่ล้อ ช่วยเสริมการเข้าโค้งของเพลาล้อรถด้านหน้าได้อย่างแม่นยำ ด้วยการปรับมุมการเข้าโค้งของล้อหลังได้ตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ ชุดเบรก M Sport ใหม่ ที่มากับคาลิปเปอร์สีน้ำเงินเมทัลลิคติดตราอักษร M ภายใต้ล้ออัลลอย W-Spoke ขนาด 20 นิ้ว
BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence มาพร้อมแถบโครเมียมพาดยาวตลอดช่วงหน้ากว้างของช่องดักอากาศ ในขณะที่กระจังหน้าไตสีเงินก็มาพร้อมกับแถบโครเมียมด้านหน้า และล้อมกรอบด้วยโครเมียมสว่าง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับรายละเอียดตามจุดต่างๆ ของตัวรถที่ตกแต่งด้วยโครเมียมสว่างเช่นกัน พร้อมติดตรา "V12" ที่ขอบฝากระโปรงท้ายอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างหรูหราด้วยไม้บริเวณพวงมาลัย และตัวอักษร V12 ที่จะปรากฎขึ้นบนหน้าปัดรถเมื่อผู้ขับขี่สตาร์ทเครื่องยนต์ ขอบประตูรถตกแต่งด้วยโลโก้ V12 เรืองแสง โดยโลโก้ V12 ยังอวดโฉมอยู่บนคอนโซลและหน้าจอ Touch Command Panel บริเวณที่วางแขนของห้องผู้โดยสารด้านหลัง
ความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความทันสมัยหรูหราเหนือระดับ
เบาะด้านหน้าอันสะดวกสบายสามารถปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้าและฟังก์ชันจดจำตำแหน่งของผู้นั่ง คู่กับพรมหนานุ่มพิเศษของห้องผู้โดยสารด้านหลัง สร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราอันเหนือชั้น ขณะที่ตัวเบาะ บริเวณข้างที่นั่ง พนักพิงศีรษะ ประตูด้านในรถ และที่วางแขนตรงกลางและด้านข้าง หุ้มด้วย หนังแกะคุณภาพเยี่ยม
เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 โฉมใหม่รุ่นอื่นๆ จอมอนิเตอร์ระบบ iDrive ของ BMW M760Li xDrive Model V12 Excellence แสดงผลบนหน้าจอและควบคุมด้วยการสัมผัส รวมถึงระบบการสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวในระบบ iDrive เป็นครั้งแรกของตระกูลบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 รวมไปถึงตัวยึดโทรศัพท์มือถือบริเวณคอนโซลซึ่งสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือได้แบบไร้สาย ผ่านการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้เป็นครั้งแรกในรถยนต์