BMW ขนทัพรถหรูลุยงาน Motor Expo 2016
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมนำทัพนวัตกรรมยานยนต์ล้ำยุคและข้อเสนอพิเศษสุดทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มุ่งหน้าสู่งาน Thailand International Motor Expo 2016 มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 33 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1-12 ธันวาคม 2559 นี้ นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS, บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Red Edition, บีเอ็มดับเบิลยู 330e Luxury และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport กลุ่มรถยนต์มินิมาพร้อมกับรุ่นพิเศษมินิ คูเปอร์ เอส "Seven Edition" รวมถึงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR HP Line และ S 1000 XR HP Line ที่ครบเครื่องกว่าเดิมด้วยฟังก์ชันมากมายสำหรับคอบิ๊กไบค์ตัวจริง
บีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 700 คันทั่วโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของรถยนต์สปอร์ตระดับตำนานอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู M3 ที่ได้เริ่มผลิตเป็นครั้งแรกในปี 1986 และมีเพียง 2 คันในประเทศไทยเท่านั้น
ขุมพลังเทอร์โบ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร รุ่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 รุ่นเดิม เพิ่มสมรรถนะด้วยเทคโนโลยีระบบหัวฉีดน้ำ (water injection) ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก หลังจากที่ช่วยขับเคลื่อนให้รถแข่ง บีเอ็มดับเบิลยู M4 DTM ของนักขับชาวเยอรมัน มาร์โก วิทแมนน์ สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันทัวริ่งคาร์รายการ DTM (Deutsche Tourenwagen Masters) ประจำปี 2014 และ 2016 ไปครองได้สำเร็จ เทคโนโลยีหัวฉีดน้ำนี้ช่วยให้เครื่องยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS มีพละกำลังสูงสุดถึง 368 กิโลวัตต์ /500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ยังมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในระดับเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe รุ่นมาตรฐาน ราคาจำหน่าย 13,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู 330e Luxury พร้อมเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู 330e Luxury ครบเครื่องด้วยประโยชน์ใช้สอยและความหรูหรา ประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี iPerformance ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ บีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo เจ้าของรางวัล International Engine of the Year กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดอีก 65 กิโลวัตต์ /89 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในโหมดไฮบริด บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ราคาจำหน่าย 2,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport เครื่องยนต์ดีเซล TwinPower Turbo 2.0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 เพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport มีสมรรถนะยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มรถยนต์ระดับเดียวกัน ราคาจำหน่าย 3,499,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport รุ่นประกอบในประเทศไทย
บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport มีขุมพลังขนาด 2.0 ลิตรที่คว้ารางวัล "International Engine of the Year" มาครองแล้วถึงสามสมัย ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นจากเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ TwinScroll ระบบหัวฉีดน้ำมันที่มีความแม่นยำสูง และระบบ VALVETRONIC ซึ่งทำให้เครื่องยนต์รุ่นนี้เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบที่ทรงพลังที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ส่งกำลังสูงสุดที่ 180 กิโลวัตต์ / 245 แรงม้า พร้อมแรงบิด 350 นิวตันเมตร
มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังเพิ่มเติมสูงสุด 83 กิโลวัตต์ /113 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งยังสามารถเลือกขับขี่โดยใช้พลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ที่ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เมื่อใช้งานร่วมกัน เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าชุดนี้จะมอบกำลังสูงถึง 230 กิโลวัตต์ / 313 แรงม้า ให้คุณเร่งความเร็วได้อย่างใจนึก ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 29.4 กิโลเมตรต่อลิตรและลดระดับมลภาวะในการขับขี่กับอัตราการปล่อยก๊าซ CO2 ที่ 79 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น
บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Red Edition
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 Protonic Red Edition เป็นรถยนต์สปอร์ต 4 ที่นั่ง (2+2) รุ่นพิเศษที่ผลิตในช่วงเวลาที่จำกัด โดดเด่นด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่ทำจากวัสดุ CFRP (carbon-fibre-reinforced plastic) และระบบส่งกำลังไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู eDrive ตัวถังสีแดง Protonic Red ตกแต่งตัดกับสีเทา Frozen Grey metallic ในดีไซน์สุดเร้าใจ
พร้อมเสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ W-spoke 470 สีเทา Orbit Grey metallic ขนาดต่างกันในล้อหน้าและล้อหลัง ส่วนดีไซน์ภายในสวยงามไม่แพ้กันด้วยวัสดุที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูงและเซรามิก ให้ความรู้สึกสมกับเป็นรถสปอร์ตอย่างแท้จริง ระบบส่งกำลังแห่งอนาคต บีเอ็มดับเบิลยู eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยู i8 ประกอบไปด้วย
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู TwinPower Turbo ที่ส่งกำลัง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า พร้อมแรงบิด 320 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลัง 96 กิโลวัตต์ / 131 แรงม้า พร้อมแรงบิด 250 นิวตันเมตร นอกจากนี้ ระบบส่งกำลัง บีเอ็มดับเบิลยู eDrive ยังใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลังไฟสูงและระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ เพื่อส่งกำลังรวม 266 กิโลวัตต์ / 362 แรงม้าได้อย่างเต็มสมรรถนะและประหยัดพลังงานสูงสุด
BMW MINI
MINI Seven ใหม่ โดดเด่นสะดุดตาในสีน้ำเงิน Lapisluxury Blue ในแบบฉบับของ MINI Yours ส่วนหลังคาและกระจกมองข้างตกแต่งด้วยสีเงิน Melting Silver และกระโปรงหน้าคาดด้วยสี Melting Silver ตัดขอบด้วยสีน้ำตาล Malt Brown เข้ากันได้อย่างลงตัวกับล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ลาย MINI Yours Vanity Spoke
เครื่องยนต์เบนซินมินิ TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ของมินิ คูเปอร์ เอส ทั้งในรุ่น 3 ประตูและ 5 ประตู กำลังสูงสุด 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า สร้างแรงบิดสูงสุดที่ 220 นิวตัน-เมตรที่รอบเครื่องยนต์ 1,250 รอบต่อนาที และสามารถเพิ่มขีดจำกัดสูงถึง 280 นิวตัน-เมตรที่ 1,250 รอบต่อนาที
- มินิ คูเปอร์ เอส 3 ประตู Seven Edition: 2,890,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- มินิ คูเปอร์ เอส 5 ประตู Seven Edition: 2,930,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
โปรแกรมบำรุงรักษา MINI Services Inclusive
รถยนต์มินิทุกรุ่นมอบความสบายใจให้แก่ลูกค้านานกว่าที่เคย ด้วยโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Service Inclusive หรือ MSI ที่ให้ระยะเวลาคุ้มครองการบำรุงรักษา รวมเป็น 5 ปี หรือ 100,000 กม. นอกจากนี้มินิยังมีโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยโปรแกรม MSI จะคงอยู่กับรถมินิเพื่อให้ลูกค้าที่รับการส่งต่อรถมินิสามารถที่จะสบายใจได้กับระยะเวลาคุ้มครองการบำรุงรักษาที่เหลืออยู่ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่รถมินิเมื่อเปลี่ยนเจ้าของอีกด้วย
BMW Motorrard
บีเอ็มดับเบิลยู F 800 R Sport ใหม่ เสริมความโฉบเฉี่ยวให้สะดุดตายิ่งกว่ารุ่นเดิมด้วยตัวรถในสีน้ำเงิน Racing Blue ตัดกับสีดำ Black Satin ทั้งยังมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่มากมาย เช่นฝาครอบเครื่องใหม่ ระบบช่วงล่างไฟฟ้า (Electronic Suspension Adjustment) ระบบควบคุมความดันยางรถ Tire Pressure Control (RDC) และไฟท้ายแบบ LED ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สองสูบ 4 วาล์ว แบบหล่อเย็นด้วยน้ำความจุ 798 ซีซี มอบกำลังสูงสุดถึง 90 แรงม้า (66 กิโลวัตต์) ที่ 8,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 86 นิวตันเมตรที่ 5,800 รอบต่อนาที ทั้งยังมาพร้อมกับคุณสมบัติมาตรฐานอีกมากมาย ทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) และช่วงล่างระบบโช้กกลับหัวซึ่งจะรองรับแรงกระแทกบริเวณล้อหน้า ขณะที่ดิสก์เบรกคู่แบบไฮดรอลิกช่วยป้องกันการสูญเสียแรงเบรก ราคาจำหน่าย 490,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 R ใหม่ บิ๊กไบค์สไตล์โรดสเตอร์ มาพร้อมระบบ Gear Shift Assistant ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบทำความร้อนแฮนด์รถ ฝาครอบเครื่อง และไฟเลี้ยว LED สีขาว สมรรถนะอันยอดเยี่ยมจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 และระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 118 กิโลวัตต์ /160 แรงม้า ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 112 นิวตัน-เมตร ที่ 9,250 รอบต่อนาที ทำงานประสานกับเทคโนโลยีระบบ Dynamic traction-Control (DTC), และ Dynamic Damping Control (DDC) ที่ช่วยปรับการทำงานของช่วงล่างให้เหมาะสมกับการขับขี่ โดยทุกระบบสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR และ S 1000 XR HP Line ใหม่
- บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR HP Line: 1,199,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 XR HP Line: 930,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
บิ๊กไบค์สายพันธุ์ซูเปอร์สปอร์ต บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR พร้อมเสริมความสปอร์ตให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นกับชุดแต่ง HP ในรุ่นพิเศษล่าสุด ที่ประกอบไปด้วยส่วนตัวถังด้านบน ฝาครอบเครื่องยนต์และโซ่ ฝาครอบล้อแบบคาร์บอน ท่อไอเสียไทเทเนียม ชุดล้อ ที่วางเท้า คันคลัตช์และเบรก ชุดผ้าคลุม และกระจกหน้าแบบเคลือบสี โดยมีวางจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 20 คันเท่านั้น
ข้อเสนอพิเศษในงาน Thailand International Motor Expo 2016
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู
- ขยายระยะเวลาโปรแกรมบำรุงรักษา BMW Service Inclusive (BSI) เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งปี ให้ครอบคลุมการดูแลและบำรุงรักษารถรวมสูงสุด 6 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร และโปรแกรมการรับประกันคุณภาพระยะเวลา 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*
- สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition Package และบีเอ็มดับเบิลยู M4 GTS ที่จองรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 จะได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโปรแกรม BMW M Driver Training ที่ประเทศเยอรมนี ระยะเวลา 5 วัน 4 คืน รวมค่าตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และโปรแกรมนำเที่ยวในมิวนิคสำหรับ 1 ท่าน
* ข้อเสนอสำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2016 และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เฉพาะรุ่นที่เข้าร่วมรายการเท่านั้น กรุณาติดต่อผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ลูกค้ามินิที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายใน 31 ธันวาคม 2559 จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
- ฟรี iPhone 7 ขนาดความจุ 128 GB
- ฟรี โปรแกรมบำรุงรักษา MINI Service Inclusive (MSI) 5 ปี / 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรมการรับประกันคุณภาพระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ดอกเบี้ย 0% สำหรับรถยนต์มินิ คันทรีแมน