ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • บ้านโครงการใหม่
  • บ้านโครงการใหม่
  • ค้นหาแบบละเอียด
  • "ลุมพินี วิสดอม" ระบุ ตลาดบ้านอัจริยะมาแรงในยุค COVID-19

    15 ก.ค. 64 175
    นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทด้านวิจัยและพัฒนาในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปัจจุบันว่า หลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้มีการพัฒนาการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของประชาชนภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ (New Normal) ซึ่งกลายเป็นวิถีชีวิตในปัจจุบัน (Now Normal) โดยคำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย การออกแบบพื้นที่ใช้สอยและวัสดุ (Function & Material) ที่ตอบโจทย์กับการอยู่อาศัยและเป็นมิตรกับชีวิตและสิ่งแวดล้อม, การออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสุขอนามัย (Health) และ การนำนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยโดยใช้เทคโนโลยี Internet of Thinks (IoTs) และอุปกรณ์อัจฉริยะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและปลอดภัย มากยิ่งขึ้น
    จากการประเมินของ IDC สถาบันวิจัยด้านการตลาดของสหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนอุปกรณ์ Smart Residence ของโลก มีอัตรการเติบโตเฉลี่ย 31% ต่อปี จากจำนวน 644 ล้านเครื่องในปี 2561 จะเพิ่มเป็น 1,300 ล้านเครื่องในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า เท่าตัวภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี ขณะที่ A.T. Kearney ระบุว่า มูลค่าตลาดของ Smart Residence ทั่วโลกจะอยู่ที่ 263,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 8.4 ล้านล้านบาทในปี 2568 โดยผลการศึกษายระบุว่า Smart Residence ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับ 2 หมวดหลักๆ คืออุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย
    ขณะที่ บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ตนิว เอร่า บิซิเนส มีเดีย จำกัด ศึกษาการเติบโตของตลาด Smart Residence ในประเทศไทยระบุว่า ตลาดผลิตภัณฑ์ Smart Home ของประเทศไทยในปี 2559 มีมูลค่า 645 ล้านบาท และเพิ่มมากกว่าเท่าตัวในปี 2563 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ Smart Residence เพื่อการดูแลผู้สูงอายุ เติบโตสูงสุด 60% และผลิตภัณฑ์ Smart Home เพื่อการรักษาความปลอดภัยจะเติบโตเป็นอันดับสองคือ 45% ต่อปี
    จากผลการสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยทั่วโลกให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยเข้ามาใช้ในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยในรูปแบบของบ้านอัจฉริยะหรือ Smart Residence มากขึ้นรวมทั้งพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ที่เริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่มีเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้การอยู่อาศัยมีความสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
    จากการวิจัยของทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ "ลุมพินี วิสดอม" พบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึง 3 ปัจจัย ประกอบด้วย
    • พื้นที่ใช้สอยและวัสดุ (Function & Material) 
    • การออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสุขอนามัย (Health)
    • เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย (Smart Living Technology)
    โดยที่ Smart Residence เป็น 1 ใน 3 ปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ
    พื้นที่ใช้สอยและวัสดุในแบบ Multifunctional Space
    จากผลการศึกษาพบว่า หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปจากบ้านเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อนและทำกิจกรรมส่วนตัว ในปัจจุบันบ้านเป็นทั้งที่ทำงานและสถานที่พักผ่อนไปพร้อมกันเมื่อผู้คนต้องทำงานที่บ้าน (Work from Home) มากขึ้น ทำให้การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยในปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องออกแบบให้มีพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยในพื้นที่ได้ในแบบ Multifunctional Space อาทิ การแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านด้วยผนังทึบอาจต้องปรับเปลี่ยนเป็นผนังที่สามารถเปิดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ภายในที่อยู่อาศัย โดยการใช้บานเลื่อนหรือบานเฟี้ยม นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านความยืดหยุ่นของพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังทำให้ที่อยู่อาศัยดูโปร่ง และมีการไหลเวียนอากาศที่ดี เพื่อตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคต
    ในขณะเดียวกันการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ภายในที่อยู่อาศัย จำเป็นที่จะต้องเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม การระบายอากาศที่ดี หรือแม้แต่ปริมาณแสงธรรมชาติที่เข้ามาภายในพื้นที่ใช้สอยนั้นๆ เช่น พื้นที่ครัวโดยเฉพาะครัวไทย ที่ต้องใช้วัสดุที่เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย กันน้ำได้ดี และระบายอากาศได้ง่าย หรือพื้นที่อ่านหนังสือ-พื้นที่นั่งเล่นที่ต้องการปริมาณแสงธรรมชาติมากกว่าห้องนอน เป็นต้น
    การออกแบบโดยให้ความสำคัญกับสุขอนามัย (Health)
    จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทำให้ประชาชนตระหนักและหันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น การออกแบบที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ผู้ประกอบการอสังหาฯ จำเป็นที่ต้องออกแบบที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงสุขอนามัยที่ดี โดยใช้นวัตกรรมการออกแบบที่ส่งเสริมคุณภาพทางด้านสุขอนามัยภายในที่อยู่อาศัย เช่น ระบบช่วยลดไวรัสและแบคทีเรียภายในอากาศ โดยใช้ประจุบวกและลบ ซึ่งมีประสิทธิภาพการกำจัดได้ถึง 99% ระบบควบคุมการไหลเวียนอากาศภายในบ้าน ที่ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทแม้จะปิดประตูหน้าต่างอยู่ก็ตาม รวมถึงนวัตกรรมทางด้านวัสดุที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เช่น สีทาบ้าน Low VOCs ซึ่งได้รับการรับรองว่ามีการปล่อยสาร VOCs หรือสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระดับต่ำ หรือลามิเนตที่ป้องกันแบคทีเรียและไวรัส เป็นต้น
    นอกจากนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตในเรื่องสุขอนามัยแล้ว พื้นที่สีเขียวภายในบ้านเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมสุขภาพทางด้านจิตใจให้แก่ผู้อยู่อาศัย ดังนั้นการออกแบบที่อยู่อาศัยจึงควรมีพื้นที่สวนเล็กๆ ภายในบริเวณบ้าน หรือมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ที่ระเบียงที่สามารถมองเห็นได้จากภายในห้อง
    เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย (Smart Living Technology)
    เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย (Smart Living Technology) ของ บ้านอัจฉริยะ Smart Residence หัวใจสำคัญคือ การสร้างความสะดวกสบายและ ความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
    ด้านความสะดวกสบาย การพัฒนา Smart Residence ได้มีการนำเทคโนโลยี Home Automation เชื่อมต่อเข้ากับระบบสั่งการต่างๆ ทั้งทางเสียง หรือ แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อควบคุมการทำงานของระบบเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในที่พักอาศัย เช่น การเปิด-ปิดไฟ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อาทิ โทรทัศน์ เครื่องเสียง ปลั๊กไฟ การปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ และ การควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิภายในบ้าน เป็นต้น รวมถึงการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตกับอุปกรณ์สั่งการด้วยเสียง ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนออกจากบ้านได้เพียงแค่การถามอุปกรณ์นั้น
    นอกจากนี้ การพัฒนา Smart Residence ต้องคำนึงถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงาน ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยในรูปแบบของ Smart Residence ต้องนำนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาความร้อนภายในที่อยู่อาศัย เช่น ระบบ Fresh Air Intake ที่จะการถ่ายเทอากาศและระบายความร้อนออกจากตัวบ้านด้วยการนำอากาศใหม่เข้ามาในบ้านผ่านช่องระบายอากาศ และดึงความร้อนจากภายในตัวบ้านขึ้นไปยังช่องใต้หลังคาด้วยระบบระบายอากาศฝ้าเพดาน และระบายออกสู่นอกตัวบ้านผ่านระบบระบายความร้อนในช่องใต้หลังคา นอกจากระบบ Fresh Air Intake แล้ว การใช้วัสดุ เช่น กระจก อิฐก่อผนัง หลังคา หรือฉนวนกันร้อนที่ได้คุณภาพก็ยังช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานภายในบ้านได้อีกด้วย
    ด้านความปลอดภัยระบบ Smart Residence ได้มีการนำระบบรักษาความปลอดภัย โดยมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น กล้องวงจรปิด ระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เซนเซอร์ที่ประตู-หน้าต่าง Digital Door Lock เป็นต้น โดยที่อุปกรณ์ต่างๆจะสามารถควบคุมได้ผ่านแอพพลิเคชั่น หรือ Home Automation ภายในบ้าน และเมื่อเกิดเหตุก็จะส่งสัญญาณเตือนมาที่โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน
    นอกจากนี้หากเป็นหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม ระบบ Smart Residence จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเห็นหน้าผู้ที่มาติดต่อผ่านกล้อง CCTV หน้าโครงการได้ ทำให้โครงการสามารถป้องกันการบุกรุกจากบุคคลภายนอก รวมถึงหากเกิดเหตุภายในบ้าน สัญญาณก็จะส่งไปยังส่วนรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการ ทำให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถเข้ามาได้ทันท่วงที รวมถึงการนำระบบควบคุมและจัดการอาคารอัตโนมัติ หรือ Building Automation System (BAS) เข้ามาใช้ในอาคารเพื่อการดูแลและบำรุงรักษาอาคารตามระยะเวลาที่เหมาะสม ลดความเสี่ยงและความเสียหายจากอุปกรณ์ต่างๆ ของอาคารที่เสื่อมไปตามระยะเวลาการใช้งานเป็นต้น
    "Smart Residence ถูกพัฒนาไปพร้อมๆ กับการพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย และตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากปัจจัยเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่อยู่อาศัยในอนาคตแล้ว การพิจารณาข้อดีและข้อเสียในการเลือกที่อยู่อาศัยที่มีเทคโนโลยีที่เสถียรในระดับราคาที่จับต้องได้ (Affordable Price) อย่างเหมาะสมและสมดุลกับตนเอง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่จะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ฉลาดซื้อ (Smart Life) ได้ในทุกมิติอย่างแท้จริง" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

    แท็กที่เกี่ยวข้อง :

    ข่าว-โปรโมชั่นล่าสุดอื่นๆ

      • ศุภาลัย เออร์บานา บางนา - วงแหวน (Supalai Urbana  Bangna Ring Road ) ... Live your life and having Fun
      • ให้คุณได้ใช้ชีวิตสนุกทุกวัน อิสระบนพื้นที่ความสุขกว้าง กับทาวน์โฮม และบ้านแฝด 3 ชั้น ที่สรรสร้างมาอย่างลงตัว เพื่อให้คุณได้ใช้ทุกพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า บนทำเลศักยภาพโซนบางนา-ตราด เชื่อมต่อทั้ง ถ.กิ่งแก้ว และ ถ.วงแหวนรอบนอก สะดวกทุกการเดินทางสู่ใจกลางแหล่งธุรกิจ ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า Airport Rail Link และ LRT บางนา-สุวรรณภูมิ (ในอนาคต) รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งช้อปปิ้งครบครัน
        20 ก.ค. 63 2,971
      • ควอลิเทีย ลิฟวิ่ง ควอลิเทีย สุขุมวิท 62 (Qualitia Sukhumvit 62)
      • ควอลิเทีย ลิฟวิ่ง เปิดตัวทาวน์โฮมโครงการใหม่ ควอลิเทีย สุขุมวิท 62 (Qualitia Sukhumvit 62) พรีเมี่ยม ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร พื้นที่ใช้สอยกว่า 280 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ พร้อม Extra Space ที่จอดรถ 2-5 คัน บนทำเลที่ดีที่สุดของสุขุมวิท เพียง 200 เมตร จากรถไฟฟ้า สถานีบางจาก
        31 มี.ค. 63 2,568
      • บ้านพันนา เอกมัย - รามอินทรา เฟส 2 (Baan Panna Ekkamai-Ramindra Phase 2) โฮมออฟฟิศ 5 ชั้น ติด Central Festival East Ville
      • บ้านพันนา เอกมัย-รามอินทรา เฟส 2 โฮมออฟฟิศ 5 ชั้นโครงการใหม่จาก พันนาลิฟวิ่ง ตั้งอยู่บนทำเลดี ใจกลางเมือง เพียง 0 เมตรจาก Central Festival East Ville Home Office 5 ชั้น หน้ากว้าง 12.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 130.80-137.90 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 679 ตร.ม. รองรับพื้นที่จอดรถสูงสุด 11 คัน เดินทางสะดวก เข้า - ออกได้หลายช่องทาง ใกล้ทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ สัมผัสความเป็นส่วนตัวทุกยูนิต ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานผ่านระบบ Home Automation สามารถปรับออกแบบอาคารได้อย่างยืดหยุ่น
        11 มี.ค. 63 2,769
      • อัลติจูด พรูฟ สาทร (Altitude Prove Sathorn) โฮมออฟฟิศติดถนน บนแยก สาทร-สุรศักดิ์
      • อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัวโฮมออฟฟิศโครงการใหม่ "อัลติจูด พรูฟ สาทร (Altitude Prove Sathorn)" โฮมออฟฟิศติดถนน บนแยกสาทร-สุรศักดิ์ มีพื้นที่ใช้สอย 849.56 - 956.74 ตร.ม. เนื้อที่บ้าน 55 - 61 ตร.ว. บนพื้นที่โครงการ 235.5 ตร.ว. ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสุรศักดิ์ และทางด่วนบนทำเลสาทร พร้อมเทคโนโลยีรองรับแผ่นดินไหว ระบบท่อน้ำสุขาภิบาล ระบบกันขโมย ที่มี Access Control Face Recognize ระบบไฟฟ้า สื่อสาร ออกแบบรองรับการใช้งานสำหรับสำนักงานในอนาคต พร้อมกระจกนิรภัย ลดความร้อน และUV
        1 ก.ย. 63 2,475

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)