อีซูซุเพรสทริป กับ ดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่นปรับโฉมใหม่ล่าสุด
หลังเปิดตัวดีแมคซ์รุ่นใหม่ล่าสุด "ดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่นฉลอง 60 ปีทอง" ไปไม่นานทาง บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ก็นำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสขีดสุดแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลกหลากรุ่น ทั้งเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ "New! Isuzu D-Max Blue Power Press Trip" ต้อนรับลมหนาว 17 องศา บนเส้นทาง กรุงเทพฯ-ตาก-สุโขทัย
ทริปส่งท้ายปี 2560 ด้วยอีซูซุ ดีแมคซ์รุ่นล่าสุด เป็นโอกาสอันดีที่ทีมงาน
Car Guru Thailand โดยเช็คราคา.ดอม ได้มีโอกาสร่วมสัมผัสตัวจริงของยอดรถปิคอัพขายดีอันดับ 1 ขบวนฯ คาราวานดีแมคซ์กว่า 10 คัน ส่วนใหญ่เป็นรุ่น
V-Cross 4X4 พร้อมกับรุ่น Hi-Lander ออกสตาร์ทการเดินทางที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้เขียนได้ขับรถเบอร์ 10 เป็นรุ่น V-Cross 4X4 สีดำ ภายนอกดีไซน์ด้านหน้าให้สวยคมเข้มขึ้น กระจังแยกชิ้นมาอยู่บนฝากระโปรงหน้าส่วนหนึ่ง ไฟหน้าเป็นแบบ Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ด้านล้ออัลลอยก็เป็นดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว ภายในดูพรีเมี่ยมมากถ้าเทียบกับปิคอัพด้วยกัน ชิ้นงานวัสดุคุณภาพสูงและประกอบได้ปราณีต นับเป็นความประทับใจจริงๆ โดยเฉพาะเบาะนั่งกึ่งหนังแท้ทูโทนสีน้ำตาลเทาเดินด้ายสีส้ม
หลังจากทยอยออกเดินทางจุดพักแรกอยู่ที่ร้านอาหารครัวท่าน้ำอ้อย สาขา 2 จังหวัดชัยนาท หลังเติมพลังเต็มอิ่มก็ขับยาวๆเพื่อพิสูจน์ความแรงเต็มสมรรถนะของขุมพลัง อีซูซุ ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ขบวนฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดตาก แวะเช็ค-อินคาเฟ่สุดฮิป ประจำเมืองตากที่ เถียงนา Coffee and Bakery Farm ริมทางหลวงหมายเลข 1 ผู้เขียนขับสบาย เร่งแซงมั่นใจตลอดทาง ด้วยพลัง 177 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 3.0 ดีดีไอ บลูพาวเวอร์ เมื่อมาถึงร้าน ขบวนฯ พักเพื่อให้สมาชิกได้จิบกาแฟ ทานของหวาน เติมพลังกันอีกหน่อย ก่อนขับเข้าที่พัก โรงแรมไวท์เฮ้าส์ (White House) เป็นโรงแรมใหม่โดดเด่นด้วยธีมสีขาว ห้องพักสวยงาม เรียบง่าย สะดวกสบาย ไม่ไกลจากตัวเมือง หลังจากเก็บสัมภาระกันเรียบร้อย ขบวนฯ ก็ออกเดินทางกันไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน แล้วไปรอเก็บภาพความงามของพระอาทิตย์อัสดง ณ สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี สะพานแขวน สัญลักษณ์เมืองตาก ซึ่งเป็นจุดชมวิวแม่น้ำปิงที่ดีที่สุดของจังหวัด ก่อนไปจบทริปวันแรกด้วยมื้อค่ำที่ร้านไอยราวดี ริมแม่น้ำปิง
วันที่สองของการเดินทาง ได้เวลาขับเที่ยวเมืองตาก จุดหมายแรกวันนี้เป็น วัดพระบรมธาตุ พุทธสถานคู่บ้านคู่เมือง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า พร้อมสักการะ "หลวงพ่อทันใจ" อันเลื่องชื่อ หลังจากนั้นแวะไปเที่ยวเยี่ยมชมฟอสซิลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ยาวขนาด 72.2 เมตร ที่ "อุทยานแห่งชาติไม้กลายเป็นหิน" ก่อนออกเดินทางต่อไปยังถนนหมายเลข 1 ตัดเข้าถนนรามคำแหง สิ้นสุดที่ตำบลหัวเดียด เพื่อลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวร้านเก่าแก่รสชาติเด็ด "ร้านแม่บางหัวเดียด" ต้องชิมเมนูต้มยำสูตรดั้งเดิม ช่วงบ่ายขบวนฯ พากันขับไป "พิพิธภัณฑ์เมืองเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดตาก" ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยปรับปรุงจากอาคารจวนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก (หลังเก่า) ซึ่งเป็นเรือนไทยไม้สักทองทรงคุณค่ามาเป็นพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้สถานที่ดังกล่าวยังเคยเป็นเรือนประทับ ของพระองค์และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จเมืองตาก เมื่อปี พ.ศ.2501 ภายในจัดแสดงและรวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดตาก เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น. โดยไม่เก็บค่าเข้าชม หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศและคุณค่าของพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาพอสมควร ก็ได้เวลาเดินทางกลับ โดยขบวนฯ ออกเดินทางสู่จังหวัดสุโขทัย โดยใช้เส้นทางจากถนนตากสิน เข้าถนนหมายเลข 12 จบภารกิจขับรถสัมผัสลมหนาวส่งท้ายปีกับยอดรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ที่ให้ความสบายตลอดการเดินทางด้วยห้องโดยสารชั้นยอด และมั่นใจกับทุกการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีดีไอ บลูเพาเวอร์