ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • รถยนต์
  • รถยนต์
  • ค้นหาแบบละเอียด
  • บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป นำนวัตกรรมแห่งอนาคตของการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนสู่ประเทศไทย

    24 พ.ย. 57 1,382
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป นำนวัตกรรมแห่งอนาคตของการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนสู่ประเทศไทย

    ฯพณฯ รอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย (ที่ 4 จากซ้าย) พร้อมด้วย ดร.คลอส เดรกเกอร์ คณะกรรมการบริหารบีเอ็มดับเบิลยู เอจี (ที่ 5 จากซ้าย), มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย (ที่ 6 จากซ้าย) และ มร.เจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (ที่ 3 จากซ้าย) เปิดตัวโครงการเพื่ออนาคตของยนตรกรรมแห่งความยั่งยืน (Sustainable Mobility) ในประเทศไทย พร้อมจัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 นวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยีที่สุดในโลก พร้อมด้วย บีเอ็มดับเบิลยู i8 รถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริด ณ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กรุงเทพฯ โดยมี มร.ไมเคิล เวลเซอร์ กรรมการผู้จัดการ บ. Powertech Engine Assembly (ที่ 2 จากขวา), ศ. ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ซ้าย), คุณสุวัฒน์ เชี่ยวชาญชัย รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ที่ 2 จากซ้าย) และ มร.มาคุส ไวเดลิค กรรมการผู้จัดการ บ. ThaiGerTec (ขวา) เข้าร่วมในการประกาศเจตจำนงความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนายานยนต์ระบบไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคยานยนต์ให้กับประเทศไทยในอนาคต
    บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวโครงการเพื่ออนาคตของยนตรกรรมแห่งความยั่งยืน (Sustainable Mobility) ในประเทศไทย จัดแสดงบีเอ็มดับเบิลยู i3 นวัตกรรมยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าที่มีความล้ำสมัยในด้านเทคโนโลยีที่สุดในโลก พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู i8 รถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริด ณ สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เป็นประธานในงาน ในโอกาสนี้ยังเป็นการต้อนรับการมาเยือนประเทศไทยของ ดร. คลอส เดรกเกอร์ คณะกรรมการบริหารบีเอ็มดับเบิลยู เอจี เพื่อประกาศเจตจำนงในการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริษัท ThaiGerTec บริษัทเทคโนโลยี สัญชาติไทย-เยอรมัน ในการวิจัยและพัฒนาที่ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร็ว (DC quick charger) สำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า
    ดร.คลอส เดรกเกอร์ กล่าวว่า "เครื่องยนต์เป็นส่วนหนึ่งในชื่อของเรา "บาวาเรียน มอเตอร์ เวิร์คส์" เครื่องยนต์คือหัวใจของรถยนต์โดยสาร และเป็นกุญแจไขไปสู่สมรรถนะและประสิทธิภาพอันทรงพลัง เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพการผลิตส่วนประกอบของรถยนต์ที่สำคัญในประเทศไทย เรามีความยินดีที่จะประกาศเดินหน้าการประกอบเครื่องยนต์ในประเทศ ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรที่ดีของเราคือ Powertech Engine Assembly เพื่อสนับสนุนการประกอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ในประเทศไทย ซึ่งการประกอบเครื่องยนต์นี้จะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป
    การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นการประกาศโครงการวิจัยและพัฒนาของบีเอ็มดับเบิลยูในประเทศไทย โดย ดร.เดรกเกอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i3 เป็นรถยนต์โดยสารคันแรกของโลกที่ผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (Carbon Fibre-Reinforced Plastic หรือ CFRP) ที่มีน้ำหนักเบามาก ซึ่งนับเป็นวัสดุสำหรับวิศวกรรมยานยนต์ในอนาคต นอกจากนี้เรายังได้นำบางขั้นตอนของการทดสอบที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย ประกอบเข้าไปในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่น i โดย ThaiGerTec บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทย-เยอรมัน ได้พัฒนาซอฟท์แวร์ควบคุมความมั่นคงและความปลอดภัยสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู i3 และ i8 วันนี้ ผมมีความยินดีที่จะแสดงเจตจำนงในการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป และ ThaiGerTec ร่วมด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในการวิจัยและพัฒนาที่ชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบเร็วสำหรับยานยนต์ระบบไฟฟ้า เราล้วนต้องการเห็นความล้ำหน้าและพลังแห่งนวัตกรรมนี้ จึงนำมาสู่การริเริ่มเสาะหาความร่วมมือกันเพื่ออนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์"

    มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า "บีเอ็มดับเบิลยู ได้พัฒนา เครื่องยนต์แบบ Module-Concept รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานระดับโลกของการประหยัดพลังงานที่มาพร้อมสมรรถนะอันเต็มเปี่ยม ด้วยการเลือกสรรวัสดุที่ทันสมัยและกระบวนการผลิตแบบพิเศษเฉพาะตัวสำหรับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเครื่องยนต์ที่ทันสมัยที่สุดของโลก ความริเริ่มในการประกอบเครื่องยนต์ในประเทศไทย รวมถึงการริเริ่มเสาะหาความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ จะเป็นการถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะยานยนต์ระบบไฟฟ้าจากเยอรมนีมาสู่ประเทศไทย"
    เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ รอล์ฟ ชูลเซ่ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย เปิดสถานทูตต้อนรับการจัดงานสุดพิเศษในครั้งนี้ ฯพณฯ ชูลเซ่ กล่าวว่า "การแถลงข่าวในครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและเยอรมันในด้านความยั่งยืน และยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ รวมทั้งการให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืนของทั้งสองประเทศ เราส่งเสริมความร่วมมือนี้เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคยานยนต์ให้กับประเทศไทยในอนาคตข้างหน้า"
    เกี่ยวกับ บีเอ็มดับเบิลยู i3
    การนิยามการเดินทางในเมืองแบบใหม่นั้นต้องอาศัยความคิดที่ก้าวไกลกว่าการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและการขับขี่ที่ปราดเปรียว ผลลัพธ์ที่ได้คือดีไซน์ที่เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล บีเอ็มดับเบิลยู i3 สร้างความแตกต่างจากยานยนต์ทั่วโลก ด้วยดีไซน์ล้ำสมัย สถาปัตยกรรมยานยนต์แนวคิดใหม่ มาพร้อมสมรรถนะล้ำหน้า และนวัตกรรมการเชื่อมต่อโครงสร้างช่วงล่างของรถใช้อะลูมิเนียมทั้งหมด ซึ่งรองรับระบบขับเคลื่อนที่ประกอบด้วย แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกำลัง 22 กิโลวัตต์พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ระบบรองรับการกระแทก MacPherson และระบบรองรับแรงกระแทกด้านหลังเชื่อมต่อ 5 จุด พร้อมทั้งโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบเพื่อป้องกันการกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้มอเตอร์กำลังไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่กับล้อหลัง ช่วยเพิ่มแรงขับ และยังส่งเสริมเอกลักษณ์ด้านการออกแบบให้โดดเด่นอีกด้วย
    นอกจากนี้ ประโยชน์อีกด้านของแนวคิดด้านสถาปัตยกรรม LifeDrive นี้ยังรวมถึงการออกแบบโดยปราศจากซุ้มเกียร์  เนื่องจากระบบขับเคลื่อนที่แยกออกไป นั่นทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู i3 มีพื้นที่ห้องโดยสารภายในเท่ากับ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ในขณะที่มีมิติภายนอกเทียบเคียง บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 1 ในขนาดที่เล็กกว่า
    เกี่ยวกับ บีเอ็มดับเบิลยู i8
    บีเอ็มดับเบิลยู i8 เป็นรถสปอร์ตระบบปลั๊ก-อินไฮบริดคันแรกของโลก โดยเมื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถขับเคลื่อนได้เป็นระยะทาง 37 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบของอียู และในโหมดสปอร์ต ยังสามารถเร่งความเร็วจาก 80 ถึง 120 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.
    และสำหรับการขับขี่ประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู i8 มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเพียง 20 กม./ลิตร เมื่อขับขี่ในเมือง และประมาณ 14.28 กม./ลิตร เมื่อขับขี่บนทางหลวง หากขับขี่ในระยะทางไกลด้วยความเร็วสูง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ประมาณ 12.5 กม./ลิตร ซึ่งเกือบเทียบเท่ากับรถยนต์คอมแพ็ค
    ห้องโดยสารผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (Carbon Fibre-Reinforced Plastic หรือ CFRP) ซึ่งมีน้ำหนักที่เบากว่าเหล็ก 50 เปอร์เซ็นต์ และเบากว่าอะลูมิเนียมประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังคงแข็งแกร่งในระดับเดียวกันหรือดีกว่า แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประจุสูงยังสามารถชาร์จไฟจากไฟบ้านหรือจากบีเอ็มดับเบิลยู i Wallbox โดยระยะเวลาในการชาร์จไฟอยู่ระหว่างน้อยกว่า 2 ชั่วโมงหรือถึงประมาณ 3 ชั่วโมง

    ข่าว-โปรโมชั่นล่าสุดอื่นๆ

    สนใจทดลองขับ

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)