รวมที่สุดรถยนต์ในมอเตอร์โชว์ 2018
ในงานมอเตอร์โชว์ 2018 (Motor Show 2018) นับว่าเป็นปีที่เริ่มมีรถยนต์ใหม่และมอเตอร์ไซค์ใหม่มากมาย จนเรียกได้ว่าเลือกเดินชมไม่ถูกเลย และนอกจากจะมีรถใหม่ๆ จากหลากหลายค่ายแล้ว ในงานนี้ยังมีความพิเศษขั้น "สุดยอด" ในหลายๆ ด้าน จะมีอะไรกันบ้างนั้น เชิญชมกันได้เลย
รถยนต์ที่ครองตำแหน่งราคาแพงที่สุดใน Motor Show 2018 ก็คือ เจ้า
Rolls-Royce New Phantom Extended Wheelbase (โรลส์-รอยซ์ นิว แฟนธอม เอ็กซ์เทนเดด วีลล์เบส) ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ภายใต้ บริษัท มิลเลียนแนร์ ออโต้ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จํากัด ในเครือบริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด เป็นรถยนต์ Rolls-Royce รุ่นที่ 8 ในตระกูล Phantom ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นรถยนต์ที่ดีที่สุดในโลก ประกาศเปิดตัวด้วยราคา 59.5 ล้านบาท
สำหรับตำแหน่งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีราคาถูกที่สุด (นับจากตัวรุ่นท็อปของแต่ละรุ่นนะครับ) นั่นคือ
Nissan March EL CVT กับราคา 526,500 บาท แต่ได้ของครบๆ ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในราคาเบาๆ นับเป็นรถอีโคคาร์ที่มีอายุยืนยาวและยอดนิยมตลอดกาลมากที่สุดรุ่นหนึ่งก็ว่าได้
รถที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ ก็คือ BYD c6 - รถบัสขนาดเล็กหรือเป็นรถโค้ชไฟฟ้าขนาด 24 ที่นั่ง โดย BYD c6 นับเป็นหนึ่งในรถบัสไฟฟ้าของ BYD ที่มีการส่งมอบไปแล้วกว่า 35,000 คันทั่วโลก โดยากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย พบว่า การใช้รถไฟฟ้า BYD สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้ประมาณ 200% เลยทีเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับรถบัสดีเซล
ดูรถที่ขนาดใหญ่สุดไปแล้ว ก็มาถึงรถที่มีขนาดเล็กที่สุดกันบ้าง กับ FOMM ONE รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าขนาด 4 ที่นั่ง ตัวเล็กจิ๋วแต่แจ๋วในงานนี้ มาพร้อมมิติของตัวถังที่มีความยาว 2,585 มิลลิเมตร กว้าง 1,295 มิลลิเมตร และสูง 1,560 มิลลิเมตร ความกว้างของฐานล้อ 1,760 มิลลิเมตร ส่วนที่ต่ำที่สุดสูงจากพื้น 140 มิลลิเมตร น้ำหนักของตัวรถอยู่ที่ 445 กิโลกรัม และขยับขึ้นเป็น 630 เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ รองรับน้ำหนักรวมสูงสุดได้ 975 กิโลกรัม ระบบรองรับแรงกระแทกด้านหน้าเป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบน ส่วนด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ มาพร้อมล้อแม็กและยางขนาด 145/65R15 ทั้ง 4 ล้อ วงเลี้ยวแคบสุดที่ 3,800 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ที่ 170-800 รอบ/นาที ซึ่งติดตั้งไว้ที่บริเวณล้อทั้ง 4 มาพร้อมแรงบิด 560 นิวตันเมตร ที่ 0-170 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยแบตเตอรี่ทั้ง 4 ลูกมาพร้อมความจุ 2.96 กิโลวัตต์ ซึ่งใช้เวลาชาร์จต่อครั้งราว 6 ชั่วโมง โดยผู้ผลิตได้เคลมไว้ว่าสามารถวิ่งได้ระยะทางทั้งสิ้น 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีอัตราการบริโภคพลังงานที่ 14.8 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ และเจ้าโฟมนี้ก็สมชื่อมากๆ เพราะสามารถลอยน้ำและแล่นได้ หากมีน้ำท่วมนับว่าเหมาะกับเมืองไทยยิ่งนัก เปิดตัวพร้อมราคา ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ด้วยราคาเปิดตัวที่ 664,000 บาท พิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง 2,000 คันแรก ราคา 599,900 บาท!!!
งานมอเตอร์โชว์ 2018 ในปีนี้ เป็นงานที่มีการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงอยู่หลากหลายรุ่น เรียกได้ว่าเทรนด์รถไฟฟ้ากำลังมาแรงเลยทีเดียว เรามากันที่รถยนต์ที่เรียกได้ว่าล้ำอนาคตที่สุดในงานนี้ Honda Clarity Fuel cell (ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์) รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รถฟิวเซลล์แบบซีดาน 5 ที่นั่งคันแรกของโลก โดยแผงเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell stack) ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้า ผสานระบบส่งกำลังให้มีสมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V6 สูบ สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 750 กม. ต่อการเติมไฮโดรเจนเต็มถัง 1 ครั้ง (การทดสอบภายในของฮอนด้าตามโหมดทดสอบของประเทศญี่ปุ่น ภายใต้เงื่อนไขของสภาวะอากาศ สภาพการจราจร และลักษณะการขับขี่ในขณะทดสอบ) ซึ่งจากระยะทางดังกล่าว นับเป็นระยะทางที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และมีอัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel economy rating) เทียบเท่า 68 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 28.3 กิโลเมตร/ลิตร)
Hyundai IONIQ รถยนต์ที่น่าจะทันสมัยที่สุด ทั้งเรื่องการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ใช้งานได้เทียบเท่ารถยนต์หรูๆ ทั่วไป พลังขับเคลื่อนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 295 นิวตัน-เมตร เชื่อมต่อผ่านระบบเกียร์แบบ single-speed ที่สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ผ่านปุ่มกดบริเวณคอนโซลกลาง ความเร็วสูงสุดที่ 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน โพลิเมอร์ ใช้เวลาในการชาร์จไฟแบบปกติอยู่ที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที โดยแบตเตอรี่ติดตั้งอยู่ใต้ที่นั่งของผู้โดยสารตอนหลัง ราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท
{1449234,ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Hyundai Ioniq}
Nissan GT-R (นิสสัน จีที-อาร์) นับเป็นรถที่มีความโดดเด่นมากที่สุดของงานนี้ เพราะเป็นครั้งแรกของรถระดับตำนานความโหดที่จำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยนิสสัน ประเทศไทยเอง จีที-อาร์ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส VR38DETT V6 ขนาด 3.8 ลิตร 3,799 ซีซี. Twin-Turbo 24 วาล์ว พละกำลังสูงสุด 570 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 637 นิวตันเมตร ที่ 3,300 - 5,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD เปิดราคาที่ 13.5 ล้านบาทเท่านั้น
{1449197,ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Nissan GT-R}
Mercedes-AMG GT R ภายในบูธ MB นับเป็นซูเปอร์คาร์ตัวแรงที่สุดในงานนี้ จากตัวเลขพลังความแรงจากเครื่องยนต์แบบ V8 เทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 3,982 ซีซี. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT DCT 7 Speed Sports Tranmission พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ที่ให้กำลัง 585 แรงม้า ที่ 6,250 รอบต่อนาที กับแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,900-5,500 รอบต่อนาที พร้อมสมรรถนะอันเร้าใจ ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.6 วินาที กับความเร็วสูงสุด 318 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมทั้งระบบ AMG DYNAMIC SELECT กับค่าตัวราคา 17,400,000 บาท แถมสั่งออปชั่นเพิ่มได้อีกด้วย
{1448648,ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Mercedes-AMG GT R}
{1448966,New Ford Ranger RAPTOR (ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์)} รถกระบะที่มาพร้อมความแกร่งเว่อร์ ทั้งช่วงล่างฐานล้อที่ออกแบบใหม่หมด โดยเฉพาะโช้กจาก "FOX" มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 213 แรงม้า แรงบิดมากถึง 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ใช้ใน RAPTOR F-150 และ Mustang แต่ปรับจูนใหม่ให้มีอัตราทดแคบลง ให้การตอบสนองดีขึ้น ทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย เปิดราคาในงานมอเตอร์โชว์นี้ที่ 1,690,000 บาท
{1448966,ดูราคา-สเปค New Ford Ranger RAPTOR}
ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2018 ยังมีรถหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจและอาจเป็นที่สุดในอีกหลายด้าน ไม่ควรพลาดต้องไปชมด้วยตาคุณเอง
ขอบคุณข้อมูลรายละเอียดรถบางบางรุ่นจาก
bangkok-motorshow.com