บิ๊กไบค์ (Bigbike) สุดเด่นในงาน Motor Expo 2019
บิ๊กไบค์ (Bigbike) สุดเด่นของปีนี้ มีความหลากหลายเหมือนเช่นเคย โดยเฉพาะรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวกันในปีนี้ก็มีพระเอกอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู R1250GS สุดยอดตัวพ่อสายเอนดูโร่ แอดเวนเจอร์ ที่มีหลายรุ่นย่อยให้เลือกตามความชอบและกำลังทรัพย์ นอกจากนี้ก็มี ซูซูกิ คาตาน่า ที่กลับมาด้วยความเป็นพรีเมียมบิ๊กไบค์รุ่นล่าสุดของวงการ และขาดไม่ได้กับพระเอกตัวแรงแห่งเซอร์กิต ยามาฮ่า R1 R1M ที่มาพร้อมกับการปรับปรุงใหม่ให้กลมกล่อมกว่าเดิม ทีมงานมอเตอร์ไบค์กูรู โดย เช็คราคาดอทคอม ขอนำเสนอข้อมูล ราคา โปรโมชั่น และภาพให้ได้ชมกันอย่างครบครันแน่นอน
ถึงเวลาของยามาฮ่า Niken กับระบบขับเคลื่อนที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ 3 ล้อ หน้า 2 หลัง 1 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 847 ซีซี 3 ลูกสูบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ เป็นการแชร์ขุมพลังเดียวกับรุ่น MT-09 ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า แรงบิดสูงสุดได้ 87.5 นิวตันเมตร เกียร์ 6 สปีด เบาะสูง 820 มม. ถังน้ำมันจุ 18.1 มม. งานนี้เคาะราคาพร้อมจองในงาน
ยามาฮ่า
TMAX 560 มาทันควันหลังเปิดตัวไปในงาน Eicma2019 เอาใจสายบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ต้องการความเป็นที่สุด งานนี้ต้องมาดูและสัมผัสที่บูธยามาฮ่า ด้วยขุมพลังใหม่ขนาด 562 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ เกียร์ CVT ล้อหน้าใช้ยางขนาด 120/70-15 หลังขนาด 160/60-15 เบาะสูง 31.5 นิ้ว ส่วนราคาต้องลุ้นว่าจะเปิดช่วงไหน แต่คาดเกาะรุ่นเดิม
ยามาฮ่า {1453306,Tenere 700} แอดเวนเจอร์ไบค์ขนาดกลางที่เตรียมมาโชว์พร้อมเปิดจองกันในงานนี้ ด้วยพื้นฐานเครื่องยนต์เดียวกับ ยามาฮ่า {1448188,MT-07}
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชั่นที่สาม ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบและเทคโนโลยี BMW ShiftCam สมรรถนะโดยรวมของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ จึงได้รับการยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BMW ShiftCam มีส่วนสำคัญในการเสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ เสริมด้วยระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 1.3 กิโลกรัม นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ยังส่งพละกำลังเพิ่มขึ้น 6 กิโลวัตต์ (8 แรงม้า) เป็น 152 กิโลวัตต์ (207 แรงม้า) ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาทีช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังมีน้ำหนักเบาลงถึง 11 กิโลกรัม ลงจาก 208 กิโลกรัมในรุ่นก่อนหน้ามาอยู่ที่ 197 กิโลกรัม
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ เปิดราคา1,020,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard)สำหรับสี Racing Red และ1,050,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BMSI Standard) สำหรับสี Light White /Racing Blue Metallic / Racing Red
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS ใหม่ และ
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 GS Adventure ใหม่ แข็งแกร่งและแตกต่าง ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แสดงถึงจิตวิญญาณของมอเตอร์ไซค์สายผจญภัยในตระกูล GS อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง กระจกบังลม และการออกแบบตามหลักการยศาสตร์ในแบบฉบับ GS พร้อมเปิดมิติใหม่ของประสบการณ์การขับขี่ทุกเส้นทาง และเป็นครั้งแรกที่มอเตอร์ไซค์ทั้งสองรุ่นติดตั้งเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผันใหม่ BMW ShiftCam กับเครื่องยนต์ เติมเต็มสมรรถนะ มอบพละกำลังและความแรงอย่างเหนือชั้น ส่งกำลังได้อย่างราบรื่นและนุ่มนวล เปิดราคาเริ่มต้น 1,085,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู R 1250 RT ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศและของเหลว ขนาด1,254 ซีซี ที่ได้รับการยกระดับให้สามารถส่งพละกำลังและแรงบิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถโลดแล่นได้อย่างราบรื่นแม้ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ส่งกำลังสูงสุด 100 กิโลวัตต์ / 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที เครื่องยนต์บ็อกเซอร์รุ่นใหม่นี้ยังโดดเด่นด้วยระบบไอเสียที่สามารถปล่อยมลพิษน้อยลง และประหยัดเชื้อเพลิง เติมเต็มสมรรถนะเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยี BMW ShiftCam ที่เสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ เพลาลูกเบี้ยวยังเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยห่วงโซ่ฟันแทนโซ่ส่งกำลังแบบเดิม ส่วนระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ ผ่านการรับรองมาตรฐานยูโร 4
ฮอนด้า GOLDWING ใหม่ อวดโฉมในงานนี้อีกครั้ง ตอกย้ำความเป็น ราชาแห่งแกรนด์ทัวร์ริ่ง สำหรับสายเดินทางที่ชอบรถขี่สบายและสมบูรณ์แบบกับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างแท้จริง ด้วยราคาเริ่มต้น 1,150,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นสุดเร้าใจ ผ่อนน้อย นาน 60 เดือน รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 ทะเบียน พรบ. ถ้าเป็นรถนำเข้าญี่ปุ่นรับกิ๊ฟโวเชอร์ สูงสุด 50,000 บาท
ซูซูกิ BURGMAN 400 สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ เมด อิน เจแปน เบิร์กแมน 400 เวอร์ชันปี 2020 จากญี่ปุ่นนำเข้าโดยซูซูกิ พร้อมเขย่าตลาดสกู๊ตเตอร์ขนาดกลางในไทย ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ 399 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 31 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 36 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ระยะสูงเบาะ 755 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 215 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือนด้านหลังของ
Burgman 400 เป็นแบบ เป็นโช๊คอัพเดี่ยว แบบ LINK TYPE ให้เสถียรภาพในการขี่ดีเยี่ยมและนุ่มนวล สามารถปรับพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ ส่วนระบบเบรกหยุดสั่งได้กับดิสเบรคหน้าจานคู่ขนาด 260 มม. และหลังขนาด 210 มม. พร้อม ABS หน้า-หลัง
Z H2 ปฐมบทแห่งรถตระกูลZ (917,200 บาท
) รถในตระกูล Z เป็นแบรนด์ที่มีประวัติยาวนานย้อนหลังไปเกือบ 50 ปี การมาถึงของซูเปอร์เน็กเก็ต Z H2 ที่มาพร้อมขุมพลังซูเปอร์ชาร์จเจอร์จึงเปรียบเสมือนการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของรถในตระกูลนี้ไปสู่บทที่สอง เทคโนโลยีมากมายที่บริษัทคาวาซากิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ จำกัดถือครองถูกกลั่นกรองจนออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่อย่าง Z H2 รถจักรยานยนต์ที่ควรค่าแก่การเป็นสุดยอดเรือธงลำใหม่ที่จะนำซีรีย์ Z ไปสู่อนาคต
เครื่องยนต์: ขุมพลังบาลานซ์ซูเปอร์ชาร์จสำหรับรถจักรยานยนต์ซูเปอร์เน็กเก็ตเครื่องยนต์บาลานซ์ซูเปอร์ชาร์จของ Z H2 ถูกผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของคาวาซากิกรุ๊ป และไม่ได้เกิดขึ้นจากการออกแบบแค่ภายในบริษัทรถจักรยานยนต์ &เครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังมีการร่วมมือกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนและระบบอากาศยาน บริษัทพลังงาน & อุตสาหกรรมเครื่องกล และร่วมมือกับแผนกเทคโนโลยี เนื่องจากทางคาวาซากิต้องการให้กำลังของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์สามารถควบคุมได้ง่าย ผลลัพธ์จากความตั้งใจในครั้งนี้จึงออกมาเป็นขุมพลังซูเปอร์ชาร์จเจอร์ประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งส่งกำลังได้เรียบเนียน ไร้การสะดุดในทุกสภาวะการทำงาน ทั้งยังมีย่านกำลังที่กว้างส่งผลให้การเรียกอัตราเร่งมีความตื่นเต้นเร้าใจ ขี่ง่าย ไม่รอรอบในทุกระดับความเร็ว
วาล์ว: โฟกัสแรงบิดในรอบต่ำถึงกลางเสริมการควบคุมขับเคลื่อนให้เกิดความคล่องตัวเรือนลิ้นเร่งอิเล็กทรอนิกส์และระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันคือปัจจัยหลักที่ช่วยให้พละกำลังอันมหาศาลของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์มีคาแรคเตอร์ที่ควบคุม-ง่าย นอกจากนี้อัตราทดขั้นสุดท้ายยังถูกปรับให้สั้นลง รวมถึงมีการปรับไทม์มิ่งในการทำงานของวาล์วให้มีความเหมาะสมสูงสุดเพื่อช่วยให้อัตราเร่งในรอบต่ำถึงกลางมีความเรียบเนียน ไร้การสะดุด อีกทั้งท่อเฮดเดอร์ขนาดยาวในระบบท่อไอเสียแบบไร้หม้อพักกลางยังช่วยเสริมสมรรถนะในรอบต่ำถึงกลางด้วยเช่นกัน ขณะที่การตอบสนองของคันเร่งถูกออกแบบให้ง่ายต่อการควบคุมและเรียกอัตราเร่งได้นุ่มนวลในรอบต่ำถึงกลางที่ให้แรงบิดอันทรงพลังโดยเฉพาะ เมื่อผู้ขับขี่เปิดคันเร่งและรอบเครื่องยนต์เริ่มไต่ระดับจนถึงรอบสูง กำลังของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จจะยิ่งชัดเจน เร้าใจ มากยิ่งขึ้น
Ram Air: หม้อกรองและวิธีการป้อนอากาศที่ถูกเสริมให้มีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวห้องประจุอากาศ (หม้อกรอง) ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งมีคุณสมบัติในการกระจายความร้อนที่ยอดเยี่ยมและสามารถรองรับการผนึกอากาศจากแรงดันของซูเปอร์ชาร์จได้อย่างเต็มสมรรถนะ (ประมาณ 2 atm) ดิฟฟิวเซอร์และตาข่ายที่อยู่บริเวณปากแตรช่วยปรับการไหลของอากาศให้มีความเรียบเนียนและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของซูเปอร์ชาร์จ ซึ่งป้องกันอาการเขกของเครื่องยนต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อินเตอร์คูลเลอร์
แชสซี: เฟรมถัก Trellis น้ำหนักเบาที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษมอบการควบคุมที่เบาฉับไวและเสถียรภาพบนทางตรงนอกเหนือจากความสามารถในการรองรับกำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จเจอร์ เฟรมถักที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษของ Z H2 ยังมอบส่วนผสมระหว่างเสถียรภาพในความเร็วสูงบนทางตรงและศักยภาพการควบคุมที่เบา คล่องตัว เหมาะกับทั้งการขับขี่ในเมืองหรือเส้นทางที่คดเคี้ยว – คาแรคเตอร์ตรงกันข้ามที่ถูกหลอมรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตัวเฟรมที่มีขนาดกะทัดรัดซึ่งเปรียบเสมือนพื้นฐานสำคัญของรถจักรยานยนต์เน็กเก็ต ถูกผลิตมาให้มีสมดุลอันยอดเยี่ยมระหว่างความแข็งแรงและความสามารถในการให้ตัวจึงเอื้อประโยชน์ต่อการขับขี่ใช้งานในทุกรูปแบบ เฟรมถักTrellis ประกอบด้วยท่อที่ผลิตจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง โดยแต่ละเส้นถูกคำนวณและเลือกมาอย่างพิถีพิถันในเรื่องของเส้นผ่านศูนย์กลาง ความหนาและส่วนโค้ง เพื่อให้ในแต่ละส่วนของตัวเฟรมได้ค่าความแข็งแรงตามมาตรฐาน ผลลัพธ์ที่ได้คือเฟรมที่มีทั้งความแข็งแรงสามารถรองรับกำลังเครื่องยนต์ที่สูงของขุมพลังซูเปอร์ชาร์จและเสถียรต่อการใช้งานในความเร็วบนทางตรง รวมถึงให้ตัวเพื่อส่งมอบการควบคุมที่เบา บังคับง่าย คล่องตัวในทางโค้ง ความแข็งแกร่งสูงของตัวเฟรมยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจับสัมผัสของพื้นถนนได้ง่ายซึ่งทำให้ Z H2 เป็นรถที่ควบคุมได้อย่างสนุกออกรสชาติ ข้อดีอีกหนึ่งอย่างคือตัวเฟรมนั้นมีดีไซน์แบบเปิดโล่งซึ่งช่วยกระจายความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของขุมพลังซูเปอร์ชาร์จได้ง่ายกว่าเฟรมแบบอลูมิเนียมทั่วไป
ระบบกันสะเทือน: ระบบกันสะเทือนหน้าโช้คอัพ Showa SFF-BP ถูกนำมาใช้สำหรับโมเดลนี้ เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ของลูกสูบในโช้คหน้าช่วยป้องกันไม่ให้ตัวโช้คยุบลงจนสุดช่วงและให้คาแรคเตอร์การควบคุมช่วงยุบที่เหมาะกับการขับขี่สไตล์สปอร์ตสปริงพรีโหลดและความหนืดของโช้คที่สามารถปรับตั้งได้ช่วยให้ผู้ขี่สามารถเซ็ตอัพช่วงล่างของรถให้เหมาะกับขนาดตัวและสภาวะการใช้งานได้อย่างสะดวก
เบรค: ระบบเบรคเพื่อให้ตัวรถขับขี่ง่ายทั้งในความเร็วต่ำ ความเร็วปานกลาง และความเร็วสูง Z H2 จำเป็นต้องมีระบบเบรกที่แมทช์กับสมรรถนะ ที่บริเวณด้านหน้าคาลิปเปอร์Brembo M4.32 โมโนบล็อกทำงานร่วมกับจานดิสก์คู่ ตัวคาลิปเปอร์ผลิตด้วยกรรมวิธีการหล่อขึ้นรูป (แคส) จากอลูมิเนียมก้อน โครงสร้างแบบชิ้นเดียวความแข็งแกร่งสูงที่มอบกำลังในการเบรกอันทรงพลัง ทั้งตัวคาลิปเปอร์ยังเป็นแบบเรเดียลเมาท์ซึ่งช่วยเสริมศักยภาพในการหยุดความเร็วให้สูงขึ้นไปอีกขั้น แม่ปั๊มบน Nissin ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มีคุณสมบัติเหมาะกับคาแรคเตอร์ของ Z H2 ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมน้ำหนักการใช้เบรกและลดความเร็วได้อย่างมั่นใจในทุกย่านความเร็วเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เบรกในการช่วยถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถเพื่อแต่งไลน์และมุมเลี้ยวก่อนเข้าโค้ง
KQS: Kawasaki Quick Shifter ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์สูงกว่า 2,500 รอบ/นาที KQS สามารถช่วยให้ผู้ขับขี่เพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์ เพื่อให้เสริมสมรรถนะอันทรงพลังของเครื่องยนต์และศักยภาพของระบบเกียร์ dog-ring ควิกชิพเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกในการเข้าเกียร์ระหว่างการขับขี่แบบสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้งานในเมืองและการขับขี่ทางไกล ช่วยให้การเพิ่มและลดเกียร์ทำได้อย่างฉับไว ให้อัตราเร่งที่ต่อเนื่องและลดความเร็วได้ง่ายดาย ทันใจ ระหว่างเร่งความเร็ว หากตรวจพบว่าคันเกียร์ถูกงัดระบบจะส่งสัญญาณไปยังกล่อง ECU เพื่อตัดไฟจุดระเบิดเพื่อให้ระบบเกียร์ dog-rings สามารถเลือกเฟืองตามอัตราทดถัดไปได้อย่างนิ่มนวลโดยไม่จำเป็นต้องใช้คลัตช์ ระหว่างลดความเร็ว ระบบ KQS จะควบคุมรอบเครื่องยนต์อัตโนมัติช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ ตัวระบบใช้เซ็นเซอร์แบบคอนแทคเลสซึ่งมีความทนทานสูง
การออกแบบ: SUGOMI Design สื่อถึงกลิ่นอายที่มีเอกลักษณ์ซึ่งแผ่ออกมาจากการมีรูปทรงอันน่าเกรงขามและพละกำลังที่ไร้ผู้ทัดเทียม เปรียบสเมือนพลังงานที่เปล่งออกมาจากสัตว์นักล่าเวลาเพิ่งสมาธิไปที่เหยื่อ ท่วงท่าแบบหมอบต่ำก่อนโจมตี กล้ามเนื้อทุกมัดเกร็งเพื่อพร้อมระเบิดพลังเพื่อกระโจนไปด้านหน้า สายตาอันดุดันซึ่งสะกดเหยื่อให้อยู่กับทีและปากที่ยกขึ้นเผยให้เห็นเขี้ยวอันแหลมคม เมื่อมองรูปทรงของ Z H2 คุณจะพบว่าคอนเซปท์ในการออกแบบนี้ถูกทำให้เป็นรูปธรรมอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อ Panigale V4 ถูกถอดแฟริ่งและเปลี่ยนไปใช้แฮนด์บาร์ทรงสูงและกว้าง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Desmosedic Sradale 1,103 ซิซิ ให้กำลังสูงถึง 20 แรงม้า เพื่อให้การถ่ายทอดกำลังเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบกับ "
Streetfighter V4" เน็คเก็ตไบค์ที่มาพร้อมกดโนโลยีอันล้ำสมัย ที่ได้รับรางวัล "Most Beautful Bike" ในงาน Eicma 2019 กับดีไซน์ดุดันเร้าอารมณ์
ราคา Streetfighter V4 อยู่ที่ 899,000 บาท และ Streetfighter V4S อยู่ที่ 1,059,000 บาท